คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในระหว่างพิจารณาคดีนี้ของศาลฎีกาได้มีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ออกใช้บังคับข้อ 14 ของประกาศดังกล่าวแก้ไขเพิ่มเติมให้ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4 มีโทษเบากว่าเดิม ศาลฎีกาต้องใช้กฎหมายใหม่นี้ลงโทษจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 3 คนปล้นกระบือและวิทยุของผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษและใช้ราคาทรัพย์ กับนับโทษต่อจากคดีอื่น

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4 ให้จำคุก 20 ปี ให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 12,000 บาทแก่เจ้าทรัพย์ ที่ขอให้นับโทษต่อให้ยก เพราะคดีที่ขอให้นับโทษต่อ ศาลยังมิได้พิพากษา

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยกระทำผิดตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมาและศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไปว่า ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกานี้มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ประกาศ ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2514ข้อ 14 ให้ยกเลิกมาตรา 340 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และให้ใช้ความในวรรค 4 มาตราดังกล่าวแทนว่า “ถ้าการปล้นทรัพย์ได้กระทำโดยแสดงความทารุณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ใช้ปืนยิง ใช้วัตถุระเบิด หรือกระทำทรมานผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี” ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2514 เป็นต้นไป และมาตรา 3 แห่งประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติว่า ถ้ากฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดแตกต่างกับกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิด ให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดไม่ว่าในทางใด เว้นแต่คดีถึงที่สุดแล้ว เหตุนี้ คดีนี้ต้องนำมาตรา 340 วรรค 4 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าวมาใช้ปรับบทลงโทษจำเลยเพราะกฎหมายบทนี้เป็นคุณแก่จำเลยกว่าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4 เดิม

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 14 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยสิบห้าปีนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share