แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของรวมคนหนึ่งๆ มีสิทธิฟ้องทายาทคนหนึ่งคนใดของเจ้าของรวมคนอื่นให้แบ่งทรัพย์สินได้ ไม่จำต้องฟ้องทายาททุกคน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ นางยา นายแก้ว จำเลยที่ 2 และนายเชิด มีกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินมีโฉนด 1 แปลงคนละส่วนเท่า ๆ กัน นางยา นายเชิดตาย จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 เป็นบุตรและภรรยาผู้รับมรดกของนางยาและนายเชิดตามลำดับโจทก์ขอให้จำเลยจัดการแบ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน จำเลยไม่ยอมแบ่ง จึงฟ้องขอให้จำเลยจัดการแบ่งให้โจทก์ 1 ส่วน
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การว่า มีทายาทเจ้าของรวมอีกหลายคน โจทก์ชอบที่จะเรียกทายาททุกคนเข้ามาในคดีเพื่อแบ่งแยกกัน ลำพังจำเลยไม่อาจแบ่งแยกให้โจทก์โดยปราศจากความยินยอมของทายาทอื่น
จำเลยที่ 3 ให้การยินยอมแบ่งให้โจทก์ตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาว่า โจทก์เป็นเจ้าของรวมในโฉนด มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นทายาทบางคนได้ ให้แบ่งที่ดินออกเป็น 4 ส่วน ให้โจทก์ 1 ส่วน จำเลยคนละ 1 ส่วน หากการแบ่งไม่สามารถตกลงกันได้ก็ให้ขายโดยประมูลหรือทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันตามส่วน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1363บัญญัติให้เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ มีสิทธิเรียกให้แบ่งทรัพย์สินได้ ไม่มีกฎหมายบังคับให้เจ้าของรวมผู้ประสงค์จะให้แบ่งทรัพย์สินจะต้องฟ้องผู้มีสิทธิรวมทุกคนที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นห่วงว่าผลของคำพิพากษาจะทำให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้ทรัพย์ไปเพียงผู้เดียว ทำให้ทายาทอื่นของนางยา นายเชิดเสียหายนั้น เห็นว่าหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะทายาทคนนอกคดีมีสิทธิฟ้องทายาทซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้ขอให้แบ่งทรัพย์สินอันเป็นมรดกของนางยา นายเชิดใหม่ได้
พิพากษายืน