คำสั่งคำร้องที่ 2942/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ไม่รับฎีกา จำเลยเห็นว่า จำเลยฎีกาในประเด็นที่ว่า เป็นการผิดสัญญา ทางแพ่งจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 78 แผ่นที่ 3) ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง (อันดับ 20/1) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทง ลงโทษ กระทงแรกจำคุก 2 เดือน กระทงที่สองและสามจำคุกกระทงละ 1 เดือน รวมจำคุก 4 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดกระทงที่สองคือ ความผิดตามเช็คฉบับ 30,000 บาทคงจำคุกจำเลยกระทงที่หนึ่งและที่สามรวม 3 เดือน นอกจาก ที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 75) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 76)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คฉบับแรกจำนวนเงิน 50,000 บาท มอบให้โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมที่ไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือนั้น เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ ที่ฟังว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คดังกล่าวมอบให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ เงินกู้ยืมตามสัญญากู้ยืมเงินเอกสารหมาย จ.1 จึงเป็นฎีกา ในข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยนั้นชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share