คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2555/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อปรากฏว่าสินค้าประตูอัตโนมัติซึ่งจำเลยเป็นผู้ขนส่งได้สูญหายไปบางส่วนและจำเลยไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า การสูญหายดังกล่าวเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดแต่สภาพแห่งของนั้นเองหรือเกิดเพราะความผิดของผู้ส่งหรือผู้รับตราส่ง เช่นนี้ จำเลยก็ต้องรับผิดในการที่สินค้าประตูอัตโนมัติสูญหายไปบางส่วนดังกล่าวต่อผู้รับตราส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 ข้อกำหนดในใบตราส่งที่ว่าในกรณีที่ความเสียหายต่อสินค้าที่สามารถเห็นได้ บุคคลที่มีสิทธิรับสินค้าจะต้องทำคำร้องเรียนต่อผู้ขนส่งเป็นหนังสืออย่างช้าที่สุดภายใน14 วัน จากวันรับสินค้านั้น เป็นข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่ง เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น ข้อความดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 เมื่อปรากฏว่าชิ้นส่วนของสินค้าสูญหายไป ผู้รับตราส่งได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่รายงานความเสียหายของคลังสินค้า ทำรายงานความเสียหายของสินค้าไว้แล้ว ถือไม่ได้ว่าผู้รับตราส่งได้รับสินค้าเอาไว้แล้วโดย ไม่อิดเอื้อนความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่งจึงไม่สิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 623 วรรคหนึ่ง จำเลยผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในความเสียหายของสินค้าต่อ ผู้รับตราส่ง และโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้แก่ผู้รับตราส่งในฐานะผู้รับประกันภัยไป โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้รับตราส่งมาเรียกร้องเอาค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวจากจำเลยได้ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 39,411.95 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 36,876.68 บาทนับจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า บริษัทไฮ-โปรเจค 1990 จำกัดผู้เอาประกันภัยมิได้แจ้งให้จำเลยทราบถึงการสูญหายของสินค้าภายใน 14 วัน นับแต่วันรับสินค้าตามเงื่อนไขในใบตราส่ง ทั้งรับสินค้าไปโดยไม่อิดเอื้อน จำเลยจึงพ้นความรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 36,876.68 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2538จนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ ทั้งนี้ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 2,535.27 บาท
จำเลยอุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยสินค้าประตูอัตโนมัติจากบริษัทไฮ-โปรเจค 1990จำกัด ซึ่งสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวจากบริษัทไดเทค เอส.พี.เอ.ประเทศอิตาลีและบริษัทดังกล่าวได้จ้างบริษัทเมอร์ซาริโอ เอส.อาร์.แอล. เป็นผู้ขนส่ง แล้วบริษัทเมอร์ซาริโอ เอส.อาร์.แอล.ได้จ้างจำเลยเป็นผู้ขนส่งอีกทอดหนึ่งโดยจำเลยเป็นผู้ขนส่งสินค้าดังกล่าวทางเครื่องบินจากประเทศอิตาลีมายังประเทศไทย เมื่อสินค้าดังกล่าวถูกส่งมาถึงกรุงเทพมหานครแล้ว ปรากฏว่าพลาสติกซึ่งห่อหุ้มสินค้ามีการฉีกขาด และสินค้าบางส่วนหายไป บริษัทไฮ-โปรเจค 1990จำกัดได้ติดต่อขอรับสินค้าดังกล่าวไปแล้ว และโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทไฮ-โปรเจค 1990จำกัด เป็นเงิน 36,876.68 บาท
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวให้แก่โจทก์หรือไม่ เห็นว่าในปัญหาที่ว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในความเสียหายของสินค้าที่จำเลยเป็นผู้ส่งเพียงใดนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 บัญญัติว่า ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของอันเขาได้มอบหมายแก่ตนนั้นสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งมอบชักช้าเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการสูญหายหรือบุบสลายหรือชักช้านั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดแต่สภาพแห่งของนั้นเอง หรือเกิดเพราะความผิดของผู้ส่งหรือผู้รับตราส่ง ดังนั้น เมื่อปรากฏว่าสินค้าประตูอัตโนมัติซึ่งจำเลยเป็นผู้ขนส่งได้สูญหายไปบางส่วนและจำเลยไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า การสูญหายดังกล่าวเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดแต่สภาพแห่งของนั้นเองหรือเกิดเพราะความผิดของบริษัทไดเทค เอส.พี.เอ.ผู้ส่ง หรือบริษัทไฮ-โปรเจค 1990 จำกัด ผู้รับตราส่ง เช่นนี้ จำเลยก็ต้องรับผิดในการที่สินค้าประตูอัตโนมัติสูญหายไปบางส่วนดังกล่าวต่อบริษัทไฮ-โปรเจค 1990 จำกัด ผู้รับตราส่ง
ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ว่า ใบตราส่งเอกสารหมาย จ.2ข้อ 12(เอ) มีข้อกำหนดว่าในกรณีที่ความเสียหายต่อสินค้าที่สามารถเห็นได้ บุคคลที่มีสิทธิรับสินค้าจะต้องทำคำร้องเรียนต่อผู้ขนส่งเป็นหนังสืออย่างช้าที่สุดภายใน 14 วัน จากวันรับสินค้า ดังนั้น เมื่อบริษัทไฮ-โปรเจค 1990 จำกัด ผู้รับสินค้าไม่ได้ทำคำร้องเรียนเป็นหนังสือต่อจำเลยภายใน 14 วัน นับแต่วันรับสินค้าไปเช่นนี้จำเลยย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าวนั้น เห็นว่า ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่ง ดังนั้นเมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัทไดเทค เอส.พี.เอผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น ข้อความดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 ส่วนที่จำเลยต่อสู้ว่าบริษัทไฮ-โปรเจค 1990จำกัด ผู้รับตราส่ง ได้รับสินค้าเอาไว้แล้วโดยไม่อิดเอื้อนและได้ชำระค่าระวางพาหนะกับทั้งอุปกรณ์เสร็จแล้วความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่งย่อมสิ้นสุดลงตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 623 วรรคแรก นั้นเห็นว่า บริษัทไฮ-โปรเจค 1990จำกัด ผู้รับตราส่ง ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรและนายจรูญศักดิ์ พรหมสิทธิ์ เจ้าหน้าที่รายงานความเสียหายของคลังสินค้า ทำรายงานความเสียหายของสินค้าไว้ตามตราส่งได้รับสินค้าเอาไว้แล้วโดยไม่อิดเอื้อนความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่งจึงไม่สิ้นสุดลง เมื่อจำเลยจะต้องรับผิดในความเสียหายของสินค้าต่อบริษัทไฮ-โปรเจค 1990จำกัดผู้รับตราส่ง และโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้แก่บริษัทไฮ-โปรเจค 1990จำกัด ในฐานะผู้รับประกันภัยไปแล้วเช่นนี้โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของบริษัทไฮ-โปรเจค 1990จำกัดมาเรียกร้องเอาค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวจากจำเลยได้ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 วรรคแรก
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share