คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีผู้ทำลายเรือนอันเป็นของเจ้าของร่วม 2 คน เจ้าของร่วมเพียงคนเดียวก็มีสิทธิฟ้องผู้ทำลายนั้นให้ปลูกเรือนให้ใหม่ตามสภาพเดิม หรือถ้าไม่สามารถทำได้ ก็ให้ใช้ค่าเสียหายได้
ลูกสะใภ้มีสิทธิฟ้องบิดาของสามีได้ ไม่เป็นอุทลุม
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทลายเรือนออกจากที่พิพาทไปขอให้จำเลยนำเรือนที่จำเลยรื้อไปมาปลูกใหม่ตามสภาพเดิมจำเลยแก้คดีข้อนี้ ว่าจำเลยอยู่เรือนพิพาท เรือนนั้นผุพังไปจนจำเลยอยู่ไม่ได้ จึงซื้อเรือนอยู่ในบ้านนั้น 1 หลัง แล้วจำเลยอยู่มาจนบัดนี้ ความเสียหายตามฟ้องจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดคำกล่าวแก้เช่นนี้พอเข้าใจได้แล้วว่าจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ทลายเรือน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยจำเลยยอมรับว่าเรือนและที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์ยอมให้จำเลยและภรรยากับบุตรอยู่อาศัยในที่ดินและเรือนตลอดชีวิต บัดนี้จำเลยบังอาจทลายเรือนซึ่งมีราคา 1,000 บาทออกจากที่พิพาทไป ขอให้จำเลยนำเรือนที่รื้อไป มาปลูกใหม่ตามสภาพเดิม ถ้าไม่สามารถให้ใช้ราคาเรือน 1,000 บาท

จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นบิดาสามีโจทก์จำเลยอยู่เรือนพิพาทมาเรือนนั้นผุพังไปจนจำเลยอยู่ไม่ได้ จึงซื้อเรือนซึ่งปลูกอยู่ในบ้านนั้น 1 หลังแล้วจำเลยอยู่มาจนบัดนี้ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด และตัดฟ้องว่า โจทก์ไม่มีสิทธิในส่วนตัวและแทนนางสาวพรรณีบุตรที่จะฟ้องจำเลยได้

ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่าจำเลยไม่ใช่เป็นบุพการีของโจทก์ จำเลยเป็นแต่บิดาของสามีโจทก์เท่านั้น ไม่เข้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1534 และหากจะฟังว่าเรือนพิพาทเป็นของโจทก์และนางสาวพรรณี ก็เป็นเรื่องกรรมสิทธิ์ร่วม เจ้าของร่วมคนหนึ่งจะใช้สิทธิครอบครองไปถึงทรัพย์สินทั้งหมดก็ได้ตามมาตรา 1359 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง ส่วนจำเลยให้การไม่มีประเด็นต่อสู้ จึงต้องรับผิด พิพากษาให้จำเลยนำเรือนที่รื้อไป มาปลูกใหม่ให้เหมือนสภาพเดิมถ้าไม่สามารถทำได้ ให้ใช้ค่าเรือน 1,000 บาทแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องได้ตามข้อวินิจฉัยของศาลล่างส่วนเรื่องคำให้การจำเลยนั้น พอเข้าใจได้แล้วว่าจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ทลายเรือน จึงได้กล่าวว่าเรือนผุพังจนอยู่ไม่ได้ยิ่งกว่านั้นยังกล่าวต่อไปอีกว่าจึงซื้อเรือน 1 หลังอยู่มาจนบัดนี้ซึ่งรวมความแล้วพอแปลความได้ว่า เรือนที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทลายนั้นจำเลยมิได้ทลายแต่เป็นเพราะผุพังจนอยู่ไม่ได้ จึงได้ซื้อเรือนซึ่งปลูกอยู่แล้วอยู่มาจนบัดนี้ ดังนี้จะว่า จำเลยมิได้ต่อสู้คดีในข้อที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมายังไม่ได้ จึงยังขาดข้อเท็จจริงที่ยังเถียงกันอยู่ จะพิพากษาไม่ได้ ให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว พิพากษาใหม่ ฯลฯ

Share