แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จะนำบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาใช้บังคับโดยอนุโลมในศาลภาษีอากรนั้น พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากรมาตรา 17 บัญญัติให้ทำได้ต่อเมื่อเป็นกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติ ดังกล่าวที่จะนำมาใช้บังคับเท่านั้น การย่นหรือขยายระยะเวลานั้นได้มีบทบัญญัติ มาตรา 19 บัญญัติไว้เป็นพิเศษแล้ว จึงจะนำบทบัญญัติ มาตรา 23 แห่ง ป.วิ.พ. มาใช้บังคับโดยอนุโลมไม่ได้ ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่า โจทก์ไปประกอบธุรกิจอยู่ต่างจังหวัดแล้วเกิดเจ็บป่วยต้องพักรักษาตัวอยู่ที่ต่างจังหวัด ไม่ทราบเรื่องที่ทนายโจทก์แจ้งไปยังญาติโจทก์ว่าต้องนำเงินค่าธรรมเนียมศาลไปวางศาลเพิ่มเติมตามกำหนดที่ศาลสั่งนั้น มิใช่เหตุสุดวิสัย เพราะทนายโจทก์หรือญาติของโจทก์อาจขวนขวายติดต่อให้โจทก์ทราบเพื่อนำเงินค่าธรรมเนียมศาลไปวางเพิ่มเติมตามกำหนดเวลาที่ศาลสั่งได้.
ย่อยาว
กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนภาษีเงินได้ที่โจทก์ชำระให้จำเลยเกินไป และให้เพิกถอนการประเมินภาษีของพนักงานประเมินกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยให้การว่า การประเมินภาษีและการวินิจฉัยการประเมินของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายแล้วขอให้ยกฟ้อง
ในวันชี้สองสถาน ศาลภาษีอากรกลางเห็นว่าโจทก์เสียค่าธรรมเนียมศาลไม่ครบตามจำนวนทุนทรัพย์ มีคำสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาวางเพิ่มเติมตามจำนวนทุนทรัพย์ภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่สั่งครบกำหนดแล้วโจทก์ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมวางศาลจึงมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2)จำหน่ายคดีโจทก์ออกเสียจากสารบบความ
โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์เดินทางไปประกอบธุรกิจต่างจังหวัดและป่วยหนักรักษาตัวอยู่ในต่างจังหวัด คดีโจทก์จึงมีพฤติการณ์พิเศษและมีเหตุสุดวิสัย ที่โจทก์ไม่สามารถนำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาวางเพิ่มได้ ขอให้ขยายเวลาให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมมาวางศาลภายในกำหนด 10 วัน
ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งว่า กรณีตามคำร้องมิใช่เหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกาว่า ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งจำหน่ายคดีและคำสั่งยกคำร้องขอขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมเป็นการไม่ชอบ ขอให้สั่งให้ศาลภาษีอากรกลางยกคดีโจทก์ขึ้นพิจารณาโดยให้ขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมให้โจทก์
ศาลภาษีอากรกลางสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์เฉพาะกรณีที่โจทก์ขอขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 19 บัญญัติให้ศาลภาษีอากรมีอำนาจย่นหรือขยายระยะเวลาได้ตามความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงไม่ชอบที่ศาลภาษีอากรกลางจะยกเอาเหตุที่ว่า คดีของโจทก์ไม่มีเหตุสุดวิสัยตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 มาปรับแก่คดีของโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากร และวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 17 การที่จะนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาใช้บังคับโดยอนุโลมก็ต่อเมื่อเป็นกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและข้อกำหนดคดีภาษีอากรที่จะนำมาใช้บังคับเท่านั้น เมื่อการย่นหรือขยายระยะเวลามีบทบัญญัติ มาตรา 19 บัญญัติไว้เป็นพิเศษแล้วก็จะต้องบังคับตามบทบัญญัตินั้น จะนำบทบัญญัติในมาตรา 23แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลมไม่ได้อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น
ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ข้อต่อไปของโจทก์ก็คือข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าคดีโจทก์มีเหตุสุดวิสัย เพราะโจทก์ไปประกอบธุรกิจอยู่ต่างจังหวัด และเกิดเจ็บป่วยต้องพักรักษาตัวอยู่ที่ต่างจังหวัด ไม่ทราบเรื่องที่ทนายโจทก์แจ้งไปยังญาติว่า โจทก์จะต้องนำเงินค่าธรรมเนียมศาลไปวางเพิ่มเติมตามกำหนดที่ศาลสั่งนั้น เป็นเหตุจำเป็นที่สมควรขยายระยะเวลาให้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมหรือไม่ เห็นว่า กรณีตามข้อกล่าวอ้างของโจทก์มิใช่เหตุจำเป็นที่จะสมควรขยายระยะเวลาให้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ทั้งนี้เพราะหากโจทก์เจ็บป่วยอยู่ต่างจังหวัดจริงทนายโจทก์หรือญาติของโจทก์ก็อาจขวนขวายติดต่อให้โจทก์ทราบ เพื่อนำเงินค่าธรรมเนียมศาลไปวางเพิ่มเติมภายในกำหนดเวลาตามคำสั่งของศาลภาษีอากรกลางได้เพราะศาลภาษีอากรกลางได้ให้เวลาถึง 15 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่งซึ่งเป็นระยะเวลานานพอสมควรที่โจทก์จะดำเนินการได้ทันตามกำหนดอุทธรณ์ข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า ศาลจะยกคำร้องของโจทก์ที่ขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลทันทีโดยมิได้ทำการไต่สวนก่อนไม่ได้นั้นเห็นว่า เมื่อคำร้องของโจทก์ปรากฏข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้โดยไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวนต่อไป ศาลก็มีอำนาจสั่งคำร้องของโจทก์ได้ทันที
พิพากษายืน.