คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2507

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันลูกหนี้เบิกเงินเกินบัญชีไว้กับธนาคารเจ้าหนี้ในวงเงินไม่เกิน 110,000 บาท ลูกหนี้ได้เบิกเงินเกินบัญชีไปเป็นเงิน 125,329.84 บาท ต่อมาลูกหนี้ถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องล้มละลาย ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดและมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ของลูกหนี้ ปรากฎว่าธนาคารเจ้าหนี้มิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเรื่องนั้น ต่อมาผู้ค้ำประกันถูกเจ้าหนี้อีกรายหนึ่งฟ้องล้มละลาย ธนาคารเจ้าหนี้จึงยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีเรื่องหลังนี้ ดังนี้ การที่ธนาคารเจ้าหนี้มิได้ยืนคำขอรับชำระหนี้ในคดีเรื่องก่อน หาทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดไปไม่ ธนาคารเจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีเรื่องหลังได้

ย่อยาว

ธนาคารทหารไทย จำกัด เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เงินค้ำประกันซึ่งนายจิตรลูกหนี้ยังไม่ชำระเป็นเงิน ๑๒๕,๓๒๙.๘๔ บาท
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนได้ความว่านายจิตรลูกหนี้ได้ทำสัญญาค้ำประกันนายสุเทพเบิกเงินเกินบัญชีไว้กับธนาคารทหารไทยฯ เจ้าหนี้ในวงเงินไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาทนายสุเทพได้เบิกเงินเกินบัญชีไปเป็นเงิน ๑๒๕,๓๒๙.๘๔ บาท ต่อมานายสุเทพถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องล้มละลายตามคดีแดงที่ ๑๐๙/๒๕๐๓ ซึ่งศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๐๒ และมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ของจำเลยเมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๐๓ ปรากฎว่าธนาคารทหารไทยฯ เจ้าหนี้มิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายซึ่งนายสุเทพเป็นจำเลย แต่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีเรื่องนี้ในฐานะนายจิตรลูกหนี้เป็นผู้ค้ำประกันของนายสุเทพ
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.๒๔๘๓ มาตรา ๙๑ เจ้าหนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน ๒ เดือนนับแต่วันโฆษณาค่ำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ธนาคารทหารไทยฯ เจ้าหนี้มิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทุนทรัพย์สินของนายสุเทพในคดีล้มละลายเลขแดงที่ ๑๐๙/๒๕๐๓ จึงหมดสิทธิเรียกร้องหนี้จากนายสุเทพลูกหนี้นายจิตรซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดในเมื่อหนี้เดิมระงับสิ้นไปตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๙๘ เห็นสมควรให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของธนาคารทหารไทยฯ เจ้าหนี้เสีย
ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของธนาคารทหารไทยฯเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ธนาคารทหารไทยฯ เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ อนุญาตให้ธนาคารทหารไทยฯ เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เต็มจำนวน
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาอ้างพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา ๕๙ และมาตรา ๗๘ และเห็นว่าตามพระราชบัญญัติล้มละลายบัญญัติไว้ชัดแจ้งแล้วว่า ในกรณีที่มีการประนอมหนี้ก็ดี ในกรณีที่ศาลมีคำสั่ง+จากล้มละลายก็ดี ไม่ทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดไปด้วย ฉะนั้น กรณีในคดีเรื่องนี้จึงไม่+อยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชยจ์ มาตรา ๖๔๘ ส่วนมาตรา ๖๘๘ ก็เป็นบทบัญญัติให้สิทธิแก่เจ้าหนี้ที่จะฟ้องให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้ทันทีในกรณีที่ลูกหนี้ถูกศาลพิพากษาให้เป็คนล้มละายโดยผู้ค้ำประกันจะขอให้เจ้าหนี้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ก่อนไม่ได้ อนึ่ง มาตรา ๙๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายก็เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับเจ้าหนี้ซึ่งถูกฟ้องล้มละลาย จะนำมาใช้บังคับแก่คดีนี้ซึ่งเป็นกรณีระหว่างเจ้าหนี้กับผู้ค้ำประกันซึ่งยังมิได้ถูกฟ้องคดีล้มละลายในคดีก่อนไม่ได้ ทั้งมีบทบัญญัติเป็นพิเศษตามมาตรา+ และ๗๘ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯ อยู่แล้ว ฉะนั้น ธนาคารทหารไทยฯ เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ในคดีนี้จึงมีสิทธิยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ พิพากษายืน

Share