แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การใช้ทางพิพาทของ ส. ผ่านที่ดินของ ถ. ซึ่งเป็นภรรยาเป็นการใช้ในลักษณะที่อาศัยความสัมพันธ์ในครอบครัว ถ. ไม่ได้โต้แย้งคัดค้านเป็นการยินยอมให้ ส. ใช้ทางพิพาทโดยปริยายการใช้ทางพิพาทของ ส. ไม่มีลักษณะเป็นการ ปรปักษ์อันจะได้สิทธิภารจำยอมไม่ว่าจะใช้ทางพิพาทมานานเท่าใดก็ไม่เกิดสิทธิภารจำยอม
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ จำเลย ไป จดทะเบียน ภารจำยอม ใน ที่ดิน โฉนดเลขที่ 14725 ให้ แก่ ที่ดิน โจทก์ มิฉะนั้น ให้ ถือเอา คำพิพากษาแทน การแสดง เจตนา ให้ จำเลย กลบ ทางภารจำยอม ที่ จำเลย ขุด ให้ มี สภาพความ กว้าง ยาว และ ใช้ ได้ ดัง เดิม
จำเลย ให้การ ว่า โจทก์ ได้รับ การ ยกให้ ที่ดิน จาก บิดา ส่วน จำเลยได้รับ การ ยกให้ ที่ดิน จาก มารดา การ ใช้ ทาง ของ บิดา เจ้าของที่ดิน เดิม ของ โจทก์ ก็ ไม่ ก่อ ให้ เกิด ภารจำยอม ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษากลับ ให้ จำเลย ไป จดทะเบียน ภารจำยอมใน ที่ดิน โฉนด เลขที่ 14725 ของ จำเลย หาก ไม่ไป ให้ ถือเอา คำพิพากษาแทน การแสดง เจตนา ของ จำเลย และ ให้ จำเลย ทำ ทางภารจำยอม ให้ อยู่ใน สภาพ ที่ ใช้ ได้ ดัง เดิม
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “ข้อเท็จจริง รับฟัง ได้ว่า โจทก์ และ จำเลยเป็น พี่น้อง ร่วม บิดา มารดา เดียว กัน เดิม ที่ดิน โฉนด เลขที่ 2527เป็น ของ นาย สนั่น เอี๊ยมหุ่น บิดา โจทก์ และ จำเลย และ อยู่ ติดกับ ที่ดิน โฉนด เลขที่ 14725 เป็น ของ นาง ถนอม เอี๊ยมหุ่น มารดา โจทก์ และ จำเลย เมื่อ ครั้ง นาย สนั่น และ ครอบครัว ทำนา ใน ที่นา ของ ตนเอง และ ที่ดิน นาง ถนอม ภรรยา นาย สนั่น ได้ ใช้ เกวียน บรรทุก ข้าว ผ่าน ทางพิพาท ใน ที่ดิน โฉนด เลขที่ 14725 ตลอดมา เป็น เวลา กว่า10 ปี แล้ว ต่อมา เมื่อ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2531 นาย สนั่น ได้ ยก ที่ดิน โฉนด เลขที่ 2527 ให้ โจทก์ และ นาง ถนอม ได้ ยก ที่ดิน โฉนด เลขที่ 14725 ให้ จำเลย โจทก์ ได้ ปลูก บ้าน อยู่อาศัย ใน ที่ดิน ที่ได้รับ การ ยกให้ และ ได้ ใช้ ทางพิพาท ต่อมา ส่วน จำเลย ได้ ปลูก บ้านอยู่อาศัย ใน ที่ดิน ที่ ได้รับ การ ยกให้ และ ไม่ยอม ให้ โจทก์ ใช้ ทางพิพาท
ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา จำเลย มี ว่า ทางพิพาท ตกเป็น ภารจำยอมแก่ ที่ดิน โจทก์ หรือไม่ เห็นว่า ที่ดิน ของ โจทก์ เดิม เป็น ของนาย สนั่น บิดา โจทก์ และ จำเลย ที่ดิน ของ จำเลย เดิม เป็น ของ นาง ถนอม มารดา โจทก์ และ จำเลย นาย สนั่น นางถนอม โจทก์ จำเลย และ พี่น้อง ซึ่ง เป็น บุตร ของ นาย สนั่นและนางถนอม อาศัย อยู่ บ้าน เดียว กัน ได้ ทำนา ร่วมกัน ใน ที่ดิน ทั้ง สอง แปลง ที่ เป็น ของ นาย สนั่น และ นาง ถนอม และ ใช้ เกวียน บรรทุก ข้าว ผ่าน ทางพิพาท การ ใช้ ทางพิพาท ของ นาย สนั่น ผ่าน ที่ดิน ของ นาง ถนอม ซึ่ง เป็น ภรรยา เช่นนี้ เป็น การ ใช้ ใน ลักษณะ ที่อาศัย ความ สัมพันธ์ ใน ครอบครัว นาง ถนอม ไม่ได้ โต้แย้ง คัดค้าน เป็น การ ยินยอม ให้ นาย สนั่น ใช้ ทางพิพาท โดย ปริยาย การ ใช้ ทางพิพาท ของ นาย สนั่น เช่นนี้ ไม่มี ลักษณะ เป็น การ ปรปักษ์ อัน จะ ได้ สิทธิ ภารจำยอม ไม่ว่า นาย สนั่น จะ ใช้ ทางพิพาท มา นาน เท่าใด ก็ ไม่ เกิด สิทธิ ภารจำยอม ส่วน โจทก์ เองเมื่อ ได้รับ การ ยกให้ ที่ดิน จาก นาย สนั่น และ ได้ ใช้ ทางพิพาท ใน ที่ดิน ที่ จำเลย ได้รับ การ ยกให้ จาก นาง ถนอม การ ใช้ ทาง ของ โจทก์ ใน ช่วง นี้ อาจจะ เป็น การ ใช้ โดย ปรปักษ์ และ เกิด สิทธิ ภารจำยอม ขึ้น ได้แต่ โจทก์ ใช้ มา ยัง ไม่ถึง 10 ปี จึง ไม่ได้ ภารจำยอม โดย อายุความที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษา มา นั้น ศาลฎีกา ไม่เห็น พ้อง ด้วยฎีกา จำเลย ฟังขึ้น ”
พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้องโจทก์