คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2537/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

ตามประมวลรัษฎากรมาตรา42(9)ที่ใช้บังคับในขณะพิพาทที่บัญญัติว่าการขายทรัพย์สินซึ่งทรัพย์สินนั้นได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไรอันจะได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้หมายความว่าการได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยผู้ได้มาไม่มีเจตนาจะมุ่งในทางการค้าหรือหากำไรตรงกันข้ามถ้าผู้ได้มาซึ่งทรัพย์สินมีเจตนาจะมุ่งในการค้าหรือหากำไรแล้วต่อมาได้ขายทรัพย์สินนั้นก็จะไม่ได้รับยกเว้นการเสียภาษีเงินได้. ข้อเท็จจริงที่โจทก์ซื้อที่ดินและตึกแถวมาแล้วเกิดความจำเป็นต้องกู้ยืมเงินจึงนำที่ดินไปจำนองค้ำประกันหนี้ที่ธนาคารเพื่อนำเงินไปใช้ในทางการค้าหรือการใดๆก็ดีและซื้อแล้วได้ใช้ตึกแถวเป็นที่เก็บสินค้าของห้างหุ้นส่วนก็ดีย่อมเป็นเรื่องปกติธรรมดาของเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินที่พึงใช้ประโยชน์จากที่ดินนั้นกระทำกันทั่วไปส่วนที่ว่าที่ดินและตึกแถวตั้งอยู่ในย่านทำเลการค้าก็หาแสดงว่าผู้ซื้อได้ซื้อมาโดยเจตนามุ่งในทางการค้าหรือหากำไรไม่เพราะผู้ซื้ออาจซื้อมาให้เป็นสถานประกอบการค้าหรือเพื่ออาศัยในอนาคตก็ได้. การขายที่ดินและตึกแถวไปในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อมาหาแสดงว่าเป็นการขายโดยมุ่งในทางการค้าหรือหากำไรเพราะที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอาจมีราคาสูงขึ้นตามสภาพและค่าของเงิน.

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า เมื่อ เดือน มิถุนายน 2522 เจ้าพนักงาน ประเมิน ของจำเลย ที่ 1 ได้ มี หนังสือ แจ้ง ภาษี เงินได้ ภ.ง.ด.11 ที่ส.1040/1/12038 ลง วันที่ 15 มิถุนายน 2522 แจ้ง การ ประเมิน ภาษีเงินได้ ประจำ ปี ภาษี พ.ศ. 2519 ให้ โจทก์ เสีย ภาษี จำนวน2,186,734.80 บาท และ เงินเพิ่ม จำนวน 437,436.96 บาท รวม เป็น เงินทั้งสิ้น 2,624,081.76 บาท โจทก์ เห็นว่า การ ประเมิน ไม่ ชอบ ได้ยื่น อุทธรณ์ ต่อ คณะกรรมการ พิจารณา อุทธรณ์ จำเลย ที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ซึ่ง เป็น คณะกรรมการ พิจารณา อุทธรณ์ พิจารณา แล้ว มี คำวินิจฉัยให้ ยก อุทธรณ์ ของ โจทก์ โดย เหตุผล ว่า การ ประเมิน ของ เจ้าพนักงานประเมิน ถูกต้อง แต่ มี เหตุ ผล อัน ควร ผ่อนผัน จึง พิจารณา ลด เงินเพิ่ม ที่ เรียก เก็บ ลง เหลือ ร้อยละ 50 ของ เงินเพิ่ม ตาม กฎหมาย ให้โจทก์ นำ เงิน ภาษี และ เงินเพิ่ม จำนวน 2,405,408.28 บาท ไป ชำระ โจทก์เห็นว่า คำวินิจฉัย อุทธรณ์ ของ คณะกรรมการ พิจารณา อุทธรณ์ ไม่ ชอบด้วย กฎหมาย จึง ขอ ให้ เพิกถอน การ ประเมิน ของ เจ้าพนักงาน ประเมินของ จำเลย ที่ 1 ตาม หนังสือ แจ้ง ภาษี เงินได้ ภ.ง.ด.11 ที่ส.1040/1/12038 ลง วันที่ 15 มิถุนายน 2522 และ ยก คำวินิจฉัย อุทธรณ์ของ คณะกรรมการ พิจารณา อุทธรณ์ เลขที่ 81/2524 ลง วันที่ 18 มีนาคม2524 และ ให้ จำเลย ที่ 1 คืนเงิน ค่า ภาษี จำนวน 39,942 บาท แก่ โจทก์หาก เห็นว่า โจทก์ ต้อง เสีย ภาษี เงินได้ ก็ ขอ ได้ สั่ง แก้ไข จำนวนเงิน ภาษี ที่ ต้อง เสีย โดย ให้ ถือ เงินได้ พึงประเมิน ที่ ได้ รับใน ปี ภาษี ใด ก็ เป็น เงินได้ ของ ปี ภาษี นั้น และ หัก ค่าใช้จ่ายเป็น การ เหมา ให้ ร้อยละ 90 ของ เงินได้ โดย ไม่ ต้อง เสีย เบี้ยปรับและ เงินเพิ่ม
จำเลย ทั้ง สี่ ให้การ ว่า การ ประเมิน เรียก เก็บ ภาษี ของเจ้าพนักงาน ประเมิน และ คำวินิจฉัย อุทธรณ์ ของ คณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์ ถูกต้อง ชอบ ด้วย กฎหมาย
ศาลชั้นต้น พิพากษา ยกฟ้อง โจทก์
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา แก้ เป็น ว่า ให้ เพิกถอน การ ประเมิน ภาษี เงินได้ของ เจ้าพนักงาน ประเมิน ตาม หนังสือ แจ้ง ภาษี เงินได้ ที่ส.1040/1/12038 ลง วันที่ 15 มิถุนายน 2522 และ คำวินิจฉัย อุทธรณ์ ของคณะกรรมการ พิจารณา อุทธรณ์ เลขที่ 81/2524 ลง วันที่ 18 มีนาคม 2524เฉพาะ ที่ เกี่ยวกับ เงินได้ จาก การ ขาย ที่ดิน และ ตึกแถว เสีย นอกจากที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
จำเลย ทั้ง สี่ ฎีกา
ใน ปัญหา ตาม ฎีกา ของ จำเลย ว่า การ ขาย ที่ดิน และ ตึกแถว ของ โจทก์เป็น การ ขาย ทรัพย์สิน ซึ่ง ทรัพย์สิน นั้น ได้ มา โดย มุ่ง ใน ทางการค้า หรือ หา กำไร ไม่ ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ตาม ประมวลรัษฎากรมาตรา 42 (2) ที่ ใช้ บังคับ ใน ขณะ พิพาท และ ที่ เกี่ยวกับ คดี นี้บัญญัติ ว่า ‘การ ขาย ทรัพย์สิน ซึ่ง ทรัพย์สิน นั้น ได้ มา โดย มิได้มุ่ง ใน ทาง การค้า หรือ หา กำไร’ นั้น หมายความ ว่า การ ได้ มา ซึ่งทรัพย์สิน โดย ผู้ ได้ มา ไม่ มี เจตนา จะ มุ่ง ใน ทาง การค้า หรือ หากำไร ตรงกันข้าม ถ้า ผู้ ได้ มา ซึ่ง ทรัพย์สิน มี เจตนา จะ มุ่ง ในทาง การค้า หรือ หา กำไร แล้ว ต่อมา ได้ ขาย ทรัพย์สิน นั้น ก็ จะ ไม่ได้ รับ ยกเว้น การ เสีย ภาษี เงินได้ ข้อเท็จจริง ที่ โจทก์ ซื้อที่ดิน และ ตึกแถว มา แล้ว เกิด ความ จำเป็น ต้อง กู้ยืม เงิน จึง นำที่ดิน ไป จำนอง ค้ำประกัน หนี้ ที่ ธนาคาร เพื่อ นำ เงิน ไป ใช้ ในทาง การค้า หรือ การ ใดๆ ก็ ดี และ ซื้อ ที่ดิน แล้ว ได้ ใช้ ตึกแถวเป็น ที่ เก็บ สินค้า ของ ห้างหุ้นส่วน ก็ ดี ย่อม เป็น เรื่อง ปกติธรรมดา ของ เจ้าของ กรรมสิทธิ์ ที่ดิน ที่ พึง ใช้ ประโยชน์ จาก ที่ดินนั้น กระทำ กัน ทั่วไป ส่วน ที่ ว่า ที่ดิน และ ตึกแถว ตั้ง อยู่ ในย่าย ทำเล การค้า ก็ หา แสดงว่า ผู้ซื้อ ได้ ซื้อ มา โดย เจตนา มุ่ง ในทาง การค้า หรือ หา กำไร ไม่ เพราะ ผู้ซื้อ อาจ ซื้อ มา ใช้ เป็นสถาน ประกอบ การค้า หรือ เพื่อ อยู่ อาศัย ใน อนาคต ก็ ได้
ใน ปัญหา ตาม ฎีกา ของ จำเลย ว่า โจทก์ ขาย ที่ดิน และ ตึกแถว ได้ ราคาสูง กว่า ราคา ที่ ซื้อ มา ถึง 4,150,000 บาท ถือ ว่า เป็น การ ขายทรัพย์สิน เพื่อ หา กำไร ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้างอาจ มี ราคา สูงขึ้น ตาม สภาพ และ ค่า ของ เงิน หา แสดง ว่า ถ้า ขาย ได้ราคา สูงกว่า ที่ ซื้อ มา เป็น การ ขาย โดย มุ่ง ใน ทาง การค้า หรือ หากำไร ไม่
พิพากษา ยืน.

Share