คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2525/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยโอนโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นลูกจ้างไปทำงานที่บริษัท ม. จำกัด อันเป็นบริษัทในเครือของจำเลยโดยความยินยอมของโจทก์ทั้งสอง แต่อายุการทำงานของโจทก์ทั้งสองขณะทำงานกับบริษัท ม. จำกัด แยกต่างหากจากการทำงานขณะที่เป็นลูกจ้างจำเลย เพราะบริษัทดังกล่าวไม่ยอมนับเวลาทำงานติดต่อให้ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสองแล้ว จำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชย แต่การที่โจทก์ทั้งสองสมัครใจไปทำงานกับบริษัท ม. จำกัดนั้น เท่ากับโจทก์ทั้งสองสมัครใจให้จำเลยเลิกจ้างโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ทั้งสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย ต่อมาจำเลยได้เลิกจ้างโจทก์ทั้งสองโดยไม่มีความผิดและไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า ขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชยแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้เลิกจ้างโจทก์ทั้งสองแต่ได้โอนโจทก์ทั้งสองไปทำงานให้บริษัทมาร์โก จำกัด ซึ่งอยู่ในเครือเดียวกับจำเลยโดยโจทก์ทั้งสองยินยอม โจทก์เคยฟ้องบริษัทมาร์โก จำกัด เรียกค่าชดเชย และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามาแล้ว คดีถึงที่สุดแล้ว ตามคดีหมายเลขแดงที่ ๒๙๘๑ – ๓๐๐๑/๒๕๒๘ ของศาลแรงงานกลาง ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องซ้ำ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ปัญหาว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องซ้ำหรือไม่นั้น เมื่อบริษัทมาร์โก จำกัด จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากจำเลย กรณีจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๘ การที่โจทก์เคยฟ้องบริษัทมาร์โก จำกัด มาแล้วมาฟ้องจำเลยอีกจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์ทั้งสองสมัครใจโอนไปทำงานที่บริษัทมาร์โก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของจำเลยเอง กรณีจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างนั้น พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า บริษัทมาร์โก จำกัด รับโอนโจทก์ทั้งสองไปเป็นลูกจ้างแต่ไม่ยอมรับโอนอายุการทำงานของโจทก์ทั้งสองขณะเป็นลูกจ้างของจำเลยไปด้วย เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติดังกล่าว การที่จำเลยโอนโจทก์ทั้งสองไปเป็นลูกจ้างของบริษัทมาร์โก จำกัด แม้โจทก์ทั้งสองจะยินยอมก็ตาม แต่อายุการทำงานของโจทก์ทั้งสองขณะทำงานกับบริษัทมาร์โก จำกัด แยกต่างหากจากการทำงานขณะที่เป็นลูกจ้างจำเลย เพราะบริษทดังกล่าวไม่ยอมนับเวลาทำงานติดต่อให้กรณีจึงถือได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสองแล้ว จำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชย ส่วนสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้านั้น การที่โจทก์ทั้งสองสมัครใจไปทำงานกับบริษัทมาร์โก จำกัด เท่ากับโจทก์ทั้งสองสมัครใจให้จำเลยเลิกจ้างโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่โจทก์ทั้งสองอีก
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่โจทก์ทั้งสอง

Share