แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตั้งโจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินโฉนดเลขที่ 1203 เลขที่ดิน 28 ของจำเลย จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ใช่เจ้าของที่ดินตามฟ้องและโจทก์ไม่ได้เป็นนายหน้า โจทก์นำสืบว่าจำเลยตั้งโจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินโฉนดเลขที่ 1203 เลขที่ดิน 29 ของจำเลย โดยเลขระวางที่ดิน เลขหน้าสำรวจ และที่ตั้งของที่ดินตรงกับที่ระบุในคำฟ้อง ดังนี้ เป็นการนำสืบในประเด็นข้อพิพาทแล้ว หาใช่เป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็นไม่
ค่านายหน้าต้องเป็นไปตามที่คู่สัญญาตกลงกัน เมื่อไม่ได้ตกลงกันว่าจะคิดจากราคาที่เสนอขายหรือราคาซื้อขายที่ตกลงกัน ดังนี้ โดยพฤติการณ์ที่คาดหมายได้ว่าโจทก์ทำให้เพื่อจะเอาค่าบำเหน็จ และกิจการที่โจทก์ทำไปทำให้ขายที่พิพาทให้จำเลยได้ โจทก์จึงเรียกค่านายหน้าจากจำเลยตามราคาที่ขายได้ ไม่ใช่ราคาเสนอขาย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๒๐๓ เล่ม ๑๓ หน้า ๓ ที่ดินระวาง ๒๕ น.๒ฏ เลขที่ดิน ๒๘ หน้าสำรวจ ๒๑๑ ตำบลท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ได้ทำหนังสือเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๑ ให้โจทก์ไปเสนอขายแก่บุคคลอื่นในราคาไร่ละ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท โจทก์จัดการขายได้ ๖ ไร่ ๓ งาน จึงมีสิทธิ์ได้ค่านายหน้าร้อยละ ๕ ของราคาเสนอขาย ๖,๗๕๐,๐๐๐ บาท คิดเป็นเงิน ๓๓๗,๕๐๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระค่านายหน้าดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยทั้งสองไม่ใช่เจ้าของที่ดินตามฟ้อง ไม่เคยขายที่ดินตามฟ้องให้ใคร จำเลยเคยตั้งโจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินแปลงอื่นและจำเลยได้บอกเลิกสัญญาแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่านายหน้า
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงิน ๓๓๐,๔๓๗.๕๐ บาท แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน ๑๘๕,๐๐๐ บาท แก่โจทก์
โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองมอบให้โจทก์เสนอขายที่ดินตามที่ปรากฏในใบเสนอขายเอกสารหมาย จ.๑ และ ล.๑ ซึ่งระบุเลขที่ดินว่าเลขที่ ๒๘ อันเป็นเลขที่ดินของกรมการปกครอง โฉนดเลขที่ ๑๑๗๘ ตำบลสระคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา ส่วนที่ดินตามใบเสนอขายเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๒๐๓ ตำบลท่าเรือ อำเภอท่ามะกา ซึ่งตรงกับเลขที่โฉนดและที่ตั้งที่ดินของจำเลยตามเอกสารหมาย จ.๖ แตกต่างกันเพียงเลขที่ดินตามโฉนดของจำเลยเป็นเลขที่ ๒๙ เลขที่ดินตามใบเสนอขายเป็นเลขที่ ๒๘ เท่านั้น การที่โจทก์นำสืบให้เห็นว่าที่ดินตามใบเสนอขายเอกสารหมาย จ.๑ เป็นการเสนอขายที่ดินของจำเลยทั้งสองตามเอกสารหมาย จ.๖ จึงเป็นการสืบในประเด็นข้อพิพาทที่ว่าจำเลยทั้งสองใหโจทก์เสนอขายที่ดินตามเอกสารหมาย จ.๖ ไม่ใช่การสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
ประเด็นที่ว่าค่านายหน้าจะต้องคิดจากราคาที่เสนอขายหรือราคาที่ตกลงซื้อขายกันนั้น เห็นว่าการคิดค่านายหน้าต้องเป็นไปตามที่โจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงกันตามใบเสนอขายเอกสารหมาย จ.๑ จำเลยทั้งสองไม่ได้สัญญาว่าจะให้ค่านายหน้าแก่โจทก์ตามราคาที่เสนอขาย แต่กิจการที่จำเลยทั้งสองมอบหมายให้แก่โจทก์นั้น โดยพฤติการณ์เป็นที่คาดหมายได้ว่าโจทก์ทำให้เพื่อจะเอาค่าบำเหน็จ และกิจการที่โจทก์ทำไปนั้นทำให้โจทก์ขายที่พิพาทได้ราคา ๓,๗๐๐,๐๐๐ บาท โจทก์จึงเรียกค่านายหน้าจากจำเลยทั้งสองตามราคาที่ดินที่จำเลยทั้งสองขายได้ โจทก์จะเรียกค่านายหน้าจากราคาที่เสนอขายไม่ได้
พิพากษายืน.