แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานลักทรัพย์ผู้กระทำจะต้องเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยทุจริต ผู้เสียหายเช่านาจำเลยโดยตกลงให้ข้าวแก่จำเลยปีละ 108 ถังเป็นค่าเช่า ผู้เสียหายไม่ชำระค่าเช่าจำเลยจึงไปตวงข้าวจากลานนวดข้าวในนาผู้เสียหายไป 108 ถัง ข้าวในนาของผู้เสียหายมีอยู่มากกว่าที่จำเลยมาตวงเอาไป จำเลยตวงข้าวไป 108 ถัง เท่าจำนวนค่าเช่านาที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับชำระจากผู้เสียหาย จะว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตลักข้าวของผู้เสียหายหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันลักข้าวเปลือกของผู้เสียหายไป ๑๐๘ ถัง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยเอาข้าวของผู้เสียหายไปจริง โดยไม่มีสิทธิจะทำได้โดยพลการ ให้จำคุกจำเลย ๖ เดือน ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้เสียหายเช่านาจำเลยโดยเสียค่าเช่าเป็นข้าว ๑๐๘ ถัง ผู้เสียหายไม่สุจริต คิดไม่ให้ค่าเช่านาแก่จำเลย จำเลยจึงมาตวงข้าวขนเอาไปเท่าจำนวนค่าเช่านาของตนโดยเปิดเผย จำเลยหามีเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ไม่ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้ให้ผู้เสียหายเช่านาทำได้โดยคิดค่าเช่าเป็นข้าวเปลือก ๑๐๘ ถังและจำเลยได้ตวงข้าวจากลานนวดข้าวในนาผู้เสียหายไป ๑๐๘ ถัง โดยมิได้รับอนุญาต แต่ความผิดฐานลักทรัพย์ผู้กระทำจะต้องเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยทุจริต ข้าวในนาของผู้เสียหายมีอยู่มากกว่าที่จำเลยมาตวงเอาไป จำเลยตวงข้าวไป ๑๐๘ ถัง เท่าจำนวนค่าเช่านาที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับชำระจากผู้เสียหาย จะว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตลักข้าวของผู้เสียหายหาได้ไม่
พิพากษายืน