คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2509/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่าจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์และ เอาทรัพย์ที่โจทก์มอบให้จำเลยครอบครองทำกินเพื่อเลี้ยงดู โจทก์ไปทำหลักฐานเป็นชื่อของจำเลยขอให้จำเลยคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้โจทก์ฟ้องโจทก์ดังกล่าวเป็นการ ฟ้องเรียกทรัพย์คืนจากจำเลยในฐานะที่โจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์แต่โจทก์กลับไปอ้างว่าจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามคำบรรยายฟ้องและตามทางนำสืบของโจทก์มิได้ปรากฏว่าโจทก์ได้ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลยจะบังคับ ตามคำฟ้องของโจทก์ให้จำเลยคืนทรัพย์ให้โจทก์ฐานประพฤติเนรคุณ มิได้เพราะสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลัก แห่งข้อหาขัดกันคำวินิจฉัยดังกล่าวจึงมิใช่เป็นการ ฟังข้อเท็จจริงผิดพลาด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ให้จำเลยครอบครองที่ดิน 8 แปลงทำกินเพื่อเลี้ยงดูโจทก์และนางอ่อนมารดา ต่อมาจำเลยได้นำเอาที่ดินดังกล่าวไปเปลี่ยนเป็นชื่อของจำเลยโดยโจทก์ไม่ทราบ และไม่ยอมส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์กับมารดา และยังได้ด่าว่าโจทก์ให้เสียหาย ขอให้บังคับให้จำเลยคืนทรัพย์
จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ยกทรัพย์ตามฟ้องให้จำเลย จำเลยอุปการะเลี้ยงดูโจทก์และมารดาตลอดมาไม่เคยด่าว่าโจทก์ ขอให้พิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทข้อหนึ่งว่า จำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์หรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์เป็นคำฟ้องที่บังคับให้ไม่ได้ พิพากษายืน แต่ไม่ได้ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคำฟ้องมายื่นใหม่ภายในกำหนดอายุความ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ไม่ได้ยกทรัพย์สินพิพาทให้จำเลย เป็นการรับฟังข้อเท็จจริงผิดพลาดเพราะประเด็นข้อนี้ได้ยุติไปแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้นและเป็นข้อเท็จจริงที่นอกเหนือประเด็นข้อพิพาทในคดีนี้ทั้งโจทก์มิได้ยกประเด็นข้อนี้ขึ้นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์นั้น เห็นว่าตามคำบรรยายฟ้องโจทก์ โจทก์อ้างว่าจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ และเอาทรัพย์ที่โจทก์มอบให้จำเลยครอบครองทำกินเพื่อเลี้ยงดูโจทก์ไปทำหลักฐานเป็นชื่อของจำเลยขอให้จำเลยคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้โจทก์ ฟ้องโจทก์ดังกล่าวเป็นการฟ้องเรียกทรัพย์คืนจากจำเลยในฐานะที่โจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์ แต่โจทก์กลับไปอ้างว่าจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามคำบรรยายฟ้องและทางนำสืบของโจทก์มิได้ปรากฏว่าโจทก์ได้ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลย จะบังคับตามคำฟ้องของโจทก์ให้จำเลยคืนทรัพย์ให้โจทก์ฐานประพฤติเนรคุณมิได้ เพราะสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาขัดกัน แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคำฟ้องมายื่นใหม่ภายในอายุความ คำวินิจฉัยดังกล่าวจึงมิได้ฟังข้อเท็จจริงผิดพลาดดังที่จำเลยอ้างในฎีกา เพราะเมื่อไม่มีการให้ก็ไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการให้เพราะประพฤติเนรคุณ
พิพากษายืน

Share