คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2499/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คพิพาทให้โจทก์ก่อนฟ้องคดี 3 ปี แต่ตามฟ้องและคำให้การไม่มีข้อเท็จจริงว่าเหตุใดจำเลยผู้ออกเช็คจึงไม่ลงวันที่ขณะออกเช็ค ฉะนั้น จึงถือเป็นปริยายว่าจำเลยยินยอมให้โจทก์ลงวันที่ในเช็คเอาเองภายหลังเมื่อจะเบิกเงิน และตามข้อตกลงที่รับกันในชั้นพิจารณาย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้ลงวันที่โดยสุจริต ดังนั้นอายุความต้องนับตั้งแต่วันที่ระบุในเช็ค ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค ๒ ฉบับ ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ รวมเงิน ๘,๕๐๐ บาท ซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย โจทก์ได้นำเช็คทั้งสองฉบับไปขึ้นเงินจากธนาคารเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ แต่ธนาคารไม่ยอมจ่ายเงิน โจทก์ทวงให้จำเลยชำระเงินแล้ว จำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน ๘,๕๐๐ บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า เช็คทั้งสองฉบับนี้จำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว โจทก์ไม่ได้คืนเช็คให้จำเลย ต่อมาโจทก์เอาเช็คสองฉบับนี้มากรอกวันสั่งจ่ายเอาเองโดยจำเลยไม่รู้เห็นยินยอมด้วย และนำมาฟ้องเป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริต คดีของโจทก์ขาดอายุความเพราะไม่ฟ้องเสียภายใน ๑ ปีนับแต่วันออกเช็ค
ชั้นพิจารณาคู่ความรับกันว่า เช็คพิพาททั้งสองฉบับจำเลยออกให้โจทก์ก่อนฟ้องคดี ๓ ปีมาแล้ว แต่ไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่ายไว้ ต่อมาโจทก์ได้นำเช็คไปขึ้นเงินจากธนาคาร ทางธนาคารได้ลงวันที่สั่งจ่ายในเช็ค โดยจำเลยไม่รู้เห็นด้วย เช็คขึ้นเงินไม่ได้เพราะเงินในบัญชีของจำเลยไม่มี คู่ความขอให้ศาลชี้ขาดเรื่องอายุความประเด็นเดียว หากคดีไม่ขาดอายุความจำเลยยอมรับผิดตามเช็ค ทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจสืบพยาน
ศาลชั้นต้นฟังว่า คดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๘,๕๐๐ บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมโดยกำหนดค่าทนายความ ๑๕๐ บาทแทนโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่าตามฟ้องและคำให้การไม่มีข้อเท็จจริงว่าเหตุใดจำเลยผู้ออกเช็คจึงไม่ลงวันที่ขณะออกเช็ค ฉะนั้น จึงถือเป็นปริยายว่าจำเลยยินยอมให้โจทก์ลงวันที่ในเช็คเอาเองภายหลังเมื่อจะเบิกเงิน และตามข้อตกลงที่รับกันในชั้นพิจารณาย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้ลงวันที่โดยสุจริต ดังนั้นอายุความต้องนับตั้งแต่วันที่ระบุในเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๐๒ คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน.

Share