คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2504/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยรับจ้างต่อเรือให้แก่โจทก์ซึ่งอาจกระทำให้เสร็จได้ภายในกำหนดเวลา 14 เดือน แม้สัญญาจ้างต่อเรือจะมิได้กำหนดเวลาต่อเรือให้แล้วเสร็จไว้ก็ตาม แต่ปรากฏว่านับตั้งแต่จำเลยทำสัญญารับจ้างต่อเรือจนถึงวันที่โจทก์ได้ชำระเงินให้จำเลยครั้งสุดท้ายเป็นเวลาร่วม 18 เดือนเศษ จำเลยทำการต่อเรือ ได้เพียงตั้งกระดูกงู ตั้งกงและโขนหัวเรือเท่านั้น หลังจากนั้นจำเลยมิได้ดำเนินการต่อเรือให้โจทก์อีก โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลย ต่อเรือให้เสร็จภายในกำหนด 2 เดือน จำเลยได้รับหนังสือแล้วมิได้ดำเนินการประการใดซึ่งเป็นระยะเวลาต่อมาอีกถึง 2 ปีเห็นได้ว่าจำเลยจงใจที่จะไม่ทำการต่อเรือให้โจทก์ตามสัญญา จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้
สิทธิเรียกร้องของโจทก์เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องเรียกคืนค่าจ้างที่จ่ายให้แก่จำเลยและเรียกค่าเสียหายจากการที่จำเลยผิดสัญญารับจ้างต่อเรือให้โจทก์ ไม่ใช่เรื่องนายจ้างเรียกเอาเงินค่าจ้างอันตนได้จ่ายล่วงหน้าให้ไปจากบุคคลผู้รับจ้างใช้การงานส่วนบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(8) ซึ่งมีอายุความ 2 ปี แต่อยู่ในอายุความ 10 ปีตามมาตรา 164

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญารับจ้างต่อเรือให้แก่โจทก์ และได้รับเงินไปแล้วรวม 90,000 บาท แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้าง และต่อเรือไม่เสร็จตามสัญญา ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยคืนเงินค่าจ้างที่รับไปแล้วและใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยให้การต่อสู้คดีหลายประการ และต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้ผิดสัญญา พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง และให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเบิกความว่าต่อเรือเสร็จได้ภายในกำหนดเวลา12 – 14 เดือน และแม้สัญญาจ้างต่อเรือตามเอกสารหมาย จ.ล.1 จะมิได้กำหนดเวลาต่อเรือให้แล้วเสร็จไว้ก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า นับตั้งแต่จำเลยทำสัญญารับจ้างต่อเรือให้โจทก์วันที่ 6 พฤศจิกายน 2519 เป็นต้นมาจนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2521 อันเป็นวันที่โจทก์ได้ชำระเงินให้จำเลยอีก 40,000 บาท รวมเป็นเงินที่จำเลยได้รับไว้ทั้งสิ้น 90,000 บาท เป็นเวลาร่วม 18 เดือนเศษ จำเลยทำการต่อเรือให้โจทก์ได้เพียงตั้งกระดูกงู ตั้งกงและโขนหัวเรือเท่านั้น หลังจากนั้นจำเลยมิได้ดำเนินการต่อเรือให้โจทก์อีก โจทก์ได้มีหนังสือลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2523 บอกกล่าวให้จำเลยต่อเรือให้เสร็จเรียบร้อยภายในกำหนดเวลาสองเดือนตามเอกสารหมาย จ.2 จำเลยได้รับหนังสือบอกกล่าวของโจทก์แล้วมิได้ดำเนินการประการใดซึ่งเป็นระยะเวลาต่อมาอีกสองปี เห็นได้ว่าจำเลยจงใจที่จะไม่ทำการต่อเรือให้โจทก์ตามสัญญา จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้เมื่อสัญญาเลิกกันแล้ว จำเลยก็ต้องคืนเงินที่ได้รับไว้ทั้งหมดจากโจทก์ให้แก่โจทก์ และชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

ปัญหาข้อกฎหมายในเรื่องอายุความวินิจฉัยว่า สิทธิเรียกร้องของโจทก์คดีนี้เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องเรียกคืนค่าจ้างที่จ่ายให้แก่จำเลยและเรียกค่าเสียหายจากการที่จำเลยผิดสัญญารับจ้างต่อเรือให้โจทก์ ไม่ใช่เรื่องนายจ้างเรียกเอาเงินค่าจ้างอันตนได้จ่ายล่วงหน้าให้ไปจากบุคคลผู้รับจ้างใช้การงานส่วนบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(8) ซึ่งมีอายุความ 2 ปีดังฎีกาของจำเลย แต่อยู่ในอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ

พิพากษายืน

Share