คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2501/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ค่าเสียหายที่โจทก์ต้องให้แพทย์ทำศัลยกรรมตกแต่งเพื่อลบรอยแผลเป็นบนใบหน้าจัดเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างอื่นอันมิใช่ตัวเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 446แม้ขณะฟ้อง โจทก์ยังมิได้ให้แพทย์ทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้ากล่าวคือโจทก์ยังมิได้เสียค่าใช้จ่ายในการตกแต่งใบหน้าไปก็ตามโจทก์ก็มีสิทธิฟ้องเรียกร้องเอาจากจำเลยผู้ทำละเมิดได้ และจำนวนค่าเสียหายดังกล่าว ศาลย่อมวินิจฉัยให้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 438 วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๑ขับรถยนต์ในทางการที่จ้างด้วยความประมาทชนรถของโจทก์ที่ ๑ เสียหายโจทก์ที่ ๑ และโจทก์ที่ ๒ ได้รับบาดเจ็บขอให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายและดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปี
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า โจทก์ที่ ๑ ประมาทฝ่ายเดียว ส่วนค่าเสียหายปฏิเสธทุกรายการจำเลยไม่เคยได้รับหนังสือทวงถามจากโจทก์ และไม่เคยตกลงให้ดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าแก่โจทก์
จำเลยที่ ๒ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๑ เป็นฝ่ายประมาท พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ ๓๕,๙๕๐ บาท และดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะค่าเสียหายบางรายการและเรื่องอัตราดอกเบี้ย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแก่โจทก์ทั้งสอง อีก ๑๔,๐๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่า การทำศัลยกรรมตกแต่งไม่ใช่ค่ารักษาพยาบาลโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง บาดแผลของโจทก์ทั้งสองไม่มากและไม่เสียโฉมโจทก์ทั้งสองไม่ได้ทำศัลยกรรมตกแต่ง จึงไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายที่ชอบจะได้รับชดใช้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๔๔
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยที่ ๒ ได้ขับรถโดยประมาทชนรถโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสองได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลบนใบหน้าถึงต้องเย็บและมีรอยแผลเป็นอยู่ ตามคำเบิกความของนาวาตรีนายแพทย์เดชาพยานโจทก์ว่า การทำศัลยกรรมตกแต่งเป็นวิทยาการแผนใหม่ซึ่งอาจลบรอยแผลเป็นบนใบหน้าให้หายเสียโฉมได้ประมาณ ๙๐-๙๙% ศาลฎีกาเห็นว่ารอยแผลเป็นบนใบหน้าเป็นปมด้อยของเจ้าของใบหน้า หากมีวิทยาการใดที่สามารถลบรอยนั้นได้ ก็สมควรให้จำเลยต้องรับภาระที่จะออกค่าใช้จ่ายในการนั้นเพื่อให้ใบหน้าของโจทก์ทั้งสองกลับคืนสู่สภาพเดิมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ฉะนั้น แม้ขณะฟ้อง โจทก์ยังมิได้ให้แพทย์ทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้ากล่าวคือโจทก์ยังมิได้เสียค่าใช้จ่ายในการตกแต่งใบหน้าไปก็ตาม แต่กรณีทำให้เขาเสียหายแก่ร่างกายนั้น ผู้ต้องเสียหายมีสิทธิเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างอื่นอันมิใช่ตัวเงินด้วยอีกก็ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๔๖ค่าเสียหายที่โจทก์จำต้องให้แพทย์ทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าเพื่อลบรอยแผลเป็น ย่อมจัดเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างอื่นอันมิใช่ตัวเงินตามความในมาตราดังกล่าว ซึ่งโจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยผู้ทำละเมิดได้ ส่วนจำนวนค่าเสียหาย โจทก์ควรจะได้เท่าใดนั้น ศาลย่อมวินิจฉัยให้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๘ วรรคแรก ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้โจทก์ได้ค่าทำศัลยกรรมตกแต่งตามจำนวนที่กำหนดนั้นศาลฎีกาเห็นว่าถูกต้องและพอสมควรแล้ว
พิพากษายืน

Share