แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเห็นผู้ตายกำลังชำเราภริยาจำเลยถึงในห้องนอนแม้จะไม่ใช่ภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่อยู่กินกันมา 13 ปี และเกิดบุตรกับจำเลย 6 คน จำเลยจึงใช้มีดพับเล็กที่หามาได้ในทันทีทันใด แทงผู้ตาย 2 ที และแทงภริยา 1 ที ดังนี้ เป็นการกระทำความผิดเพราะบันดาลโทสะ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงนายสม ทรายมูล ตายโดยเจตนาฆ่าเนื่องจากเป็นชู้กับภริยาจำเลย แล้วแทงภริยาจำเลยเอง 1 ที ได้รับบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,295, 72 ริบมีดของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธการกระทำโดยเจตนา จำเลยกระทำโดยมีเหตุแก้ตัวตามกฎหมาย และจำเป็นเพื่อป้องกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นซึ่งเป็นกระทงหนัก จำคุก 2 ปีริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำเลยไว้ 5 ปีตามมาตรา 56
โจทก์ขอให้ลงโทษจำคุกจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยไม่รอการลงโทษเพราะจำเลยกระทำผิดต่อผู้อื่นถึง 2 คน
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเห็นผู้ตายกำลังชำเรานางจินดาภริยาจำเลยถึงในห้องนอน แม้นางจินดาจะไม่ใช่ภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่เกิดบุตรกับจำเลย 6 คน อยู่กินกันมา 13 ปี จำเลยย่อมมีความรักและหวงแหนอาวุธที่จำเลยใช้แทงก็เป็นมีดพับเล่มเล็กที่หามาได้ในทันทีทันใดเมื่อจำเลยกระทำผิดแล้วก็ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ให้การรับสารภาพเบิกความเป็นพยานตนเองรับต่อศาล เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลมาก ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนที่จำเลยทำร้ายนางจินดาภริยาด้วยก็เป็นบาดแผลเพียงเล็กน้อยสมควรปรานีแก่จำเลย พิพากษายืน