คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มารดาโจทถูกฟ้องไนคดีก่อนแล้วตายโดยไม่มีผู้รับมรดกความ คำพิพากไนคดีนั้นย่อมไม่ผูกพันโจท และทายาทของผู้ตาย
ไนการวินิฉัยปัญหาข้อกดหมายถ้ายังมีข้อเท็ดจิงที่ต้องพิจารนาต่อไป สาลดีกาย่อมมีอำนาดที่จะย้อนสำนวนไปไห้สาลอุธรน์พิจารนาข้อเท็ดจิงนั้นต่อไปแล้วพิพากสาไหม่ตามรูปความ

ย่อยาว

โจทฟ้องขอไถ่ที่นาคืนโดยอ้างว่านานี้เปนของนางตาดมารดา โจท ซึ่งเอาไปไห้นายห่วงทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้ แล้วจำเลยเปนผู้ออกเงินไถ่มาจากนายห่วง ๘๐ บาท และขอทำกินไนที่นาครึ่งหนึ่งต่อมาจำเลยกลับฟ้องนางตาดมารดาโจท และนายแจ้ดังปรากดไนคดีแดงที่ ๔๖๓/๒๔๘๔ ว่ามารดาโจท ได้ขายที่ไห้แก่จำเลยแล้ว นางตาดมารดาโจทตายไนระหว่างพิจารนา โจทคดีนั้นขอถอนชื่อจากฟ้องและดำเนินคดีกับนายแจ้ต่อมา ไนที่สุดสาลได้พิพากสาไห้จำเลยได้กัมสิทธิไนที่นารายนี้ เปนเหตุไห้โจททั้ง ๒ ผู้ครอบครองที่นาและมีสิทธิสืบทายาทเสียสิทธิส่วนได้ไนที่นารายนี้ โดยจำเลยมิได้ร้องขอต่อสาลเรียกพวกโจทเข้าเปนคู่ความไนคดีนั้นด้วย จึงขอไห้สาลเพิกถอนคำพิพากสาไนคดีนั้น ไห้จำเลยคืนที่พิพาทไห้โจทไนถานะเปนผู้รับมรดกนางตาดมารดาโจท โดยไห้จำเลยรับชำระหนี้ ๘๐ บาท
จำเลยต่อสู้อ้างกัมสิทธิ
สาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยและนางตาดได้ทำนารายนี้คนละครึ่ง โดยจำเลยเปนผู้ออกเงินไถ่ ไม่มีเหตุแสดงว่าจำเลยได้ครอบครองที่โดยเจตนาเปนเจ้าของ เพราะจำเลยเข้ายึดถือโดยอาสัยอำนาดนางตาดโจทเปนผู้รับมรดกนางตาดมีสิทธิเรียกที่ดินคืนได้ พิพากสาไห้จำเลยคืนที่พิพาทไห้โจทไนถานะผู้รับมรดก เมื่อโจทพร้อมที่จะชำระเงิน ๘๐ บาทไห้จำเลยคำพิพากสาคดีแดงที่ ๔๖๓/๒๔๘๔ ไม่ผูกพันโจท
จำเลยอุธรน์ สาลอุธรน์วินิฉัยว่าคำพิพากสาคดีแดงที่ ๔๖๓/๒๔๘๔ ย่อมผูกพันโจท พิพากสากลับไห้ยกฟ้อง
โจทดีกาอ้างว่าดีกาโจทไม่ต้องบทห้ามตาม ป.ว.พ.มาตรา ๑๔๕ สาลดีกาวินิฉัยปัญหาที่ว่า คำพิพากสาคดีแดงที่ ๔๕๓/๒๔๘๔ จะผูกพันโจทไนคดีนี้หรือไม่ สาลดีเห็นว่า นายแจ้ว่าความไนคดีนั้นไนถานะส่วนตัวที่ถูกฟ้องเปนจำเลย ส่วนนางตาดผู้มรนะได้ถูกถอนชื่อออกจากเปนจำเลย หามีผู้รับมรดกความไม่ นางตาดจึงเปนคนนอกคดี คำพิพากสานั้นไม่ผูกพันนางตาดและทายาท โจทได้กล่าวไนฟ้องว่าเมื่อนายเปียบิดาวายชนม์ไปแล้ว นางตาดผู้เปนมารดากับโจท และทายาทอื่นเปนผู้รับมรดกที่ดินรายนี้และครอบครองมากว่า ๒๐ ปีแล้ว ถ้าเปนความจิงดังโจทกล่าว โจทย่อมมีสิทธิดีกว่านายแจ้ และจำเลย และไม่ต้องด้วยข้อห้ามตาม ป.ว.พ.มาตรา ๑๔๒ (๒) เมื่อข้อกดหมายเปนดังนี้ ก็ต้องพิจารนาข้อเท็ดจิงไนสำนวนต่อไป พิพากสาไห้ย้อนสำนวนไปไห้สาลอุธรน์พิจารนาปัญหาข้อเท็ดจิง แล้วพิพากสาไหม่ตามกะบวนความ

Share