คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีอาญาที่โจทก์ขอแก้ฟ้องศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์แต่ศาลอุทธรณ์กลับให้โจทก์แก้ได้และย้อนสำนวนให้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาต่อไป จำเลยกลับให้การรับสารภาพจนศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยมาแล้วเช่นนี้ จำเลยจะฎีกในข้อที่ศาลไม่ควรอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนด 1 เดือนนับแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาในครั้งแรกมิได้

ย่อยาว

เรื่องนี้โจทก์ฟ้องจำเลยว่าจัดให้มีการพะนันจับสลากเอาของโดยมิได้รับอนุญาตที่ตำบลวังธง ครั้นสืบพะยานโจทก์ได้ ๒ ปากโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฐานที่เกิดเหตุเป็นตำบลวังหงษ์ ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตแลพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์ขอแก้ได้ จึงพิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่ ครั้นศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว จำเลยกลับให้การรับสารภาพแต่ต่อสู้ว่าฐานที่เกิดเหตุไม่ใช่ตามฟ้องที่จริงจำเลยจัดให้มีการพนันขึ้นณตำบลวังธง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.การพะนัน ม.๑๒ ข้อ ๒
จำเลยอุทธรณ์ฎีกาต่อมาว่าศาลไม่ควรให้โจทก์แก้ฟ้องหรือไม่นั้น ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยและพิพากษาในประเด็นนั้นแล้วแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๔๗๙ จำเลยมิได้ฎีกาคัดค้านกลับรับสารภาพ จนศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลงโทษจำเลย ๆ พึ่งฎีกาคัดค้านในประเด็นเรื่องควรอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องหรือไม่ในวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๔๘๐ เห็นว่าไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา จำเลยชอบที่จะฎีกาคัดค้านเสียแต่แรก เมื่อจำเลยไม่ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องถือว่าถึงที่สุด ฎีกาของจำเลยณบัดนี้ล่วงพ้นเวลาที่ควรฎีกาได้จึงให้ยกเสีย

Share