คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2486/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

ก.ผู้เสียหายสมัครเข้าทำงานที่โรงพยาบาลอำเภอคลองขลุงก.นำหนังสือของทางราชการไปติดต่อทำการพิมพ์ลายนิ้วมือที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองขลุงเพื่อสอบประวัติเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ก.ไปพบจำเลยซึ่งทำงานอยู่ที่สถานีตำรวจนั้นจำเลยจัดให้ก.พิมพ์ลายนิ้วมือต่อมาก.ทราบผลการตรวจว่าก.เคยต้องคดีมาก่อนก.ได้ปรึกษาจำเลยจำเลยบอกว่าสามารถช่วยก.ได้และได้เรียกเงินจากก.1,500บาทโดยอ้างว่าจะให้เจ้านายของจำเลยลงชื่อรับรองให้ก.ได้ หาเงินมาให้จำเลยเช่นนี้จำเลยมิได้ขู่เข็ญก.ว่าจะเปิดเผยความลับแต่อย่างใดจึงไม่เป็นความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา338.

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย ข่มขืน ใจ นาย เกษม บุญญาวิจิตร ผู้เสียหาย ให้ยอม ให้ หรือ ยอม จะ ให้ เงิน 2,000 บาท แก่ จำเลย โดย ขู่เข็ญ ว่าหาก ไม่ ยอม ให้ จะ เปิดเผย ความลับ เกี่ยวกับ ประวัติ ของ ผู้เสียหายซึ่ง เคย กระทำ ความผิด พระราชบัญญัติ ขนส่ง ทางบก การ เปิดเผย นั้น จะทำ ให้ ผู้เสียหาย รับราชการ ต่อไป ไม่ ได้ ผู้เสียหาย จึง ให้ เงิน1,500 บาท แก่ จำเลย ไป และ ยอม จะ ให้ เงิน 500 บาท แก่ จำเลย อีกขอ ให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา338 ให้ จำคุก 1 ปี ให้ จำเลย คืน หรือ ใช้ เงิน 1,500 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา กลับ ให้ ยกฟ้อง โจทก์
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดี นี้ โจทก์ ฟ้อง ขอ ให้ ลงโทษ จำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 ซึ่ง บัญญัติ ว่า ‘ผู้ใด ข่มขืน ใจ ผู้อื่นให้ ยอม ให้ หรือ ยอม จะ ให้ ตน หรือ ผู้อื่น ได้ ประโยชน์ ใน ลักษณะที่ เป็น ทรัพย์สิน โดย ขู่เข็ญ ว่า จะ เปิดเผย ความลับ ซึ่ง การเปิดเผย นั้น จะ ทำ ให้ ผู้ ถูก ขู่เข็ญ หรือ บุคคล ที่ สาม เสียหายจน ผู้ ถูก ข่มขืน ใจ ยอม เช่นว่า นั้น ผู้นั้น กระทำ ความผิด ฐานรีด เอา ทรัพย์ ต้อง ระวาง โทษ…ฯลฯ’ แต่ ตาม ทาง นำสืบ ของ โจทก์ ได้ความ จาก คำ ของ นาย เกษม ผู้เสียหาย แต่ เพียง ว่า เมื่อ ผู้เสียหายทราบ ผล การ ตรวจ ลายพิมพ์ นิ้วมือ ว่า ผู้เสียหาย เคย ต้อง คดี มา ก่อน ผู้เสียหาย ได้ ปรึกษา จำเลย จำเลย บอก ว่า สามารถ ช่วย ผู้เสียหายได้ และ จำเลย ได้ เรียก เงิน จาก ผู้เสียหาย 1,500 บาท โดย อ้าง ว่าจะ ให้ เจ้านาย ของ จำเลย ลงชื่อ รับรอง ให้ แล้ว ผู้เสียหาย จึง ได้ ไปหา เงิน มา ให้ จำเลย ซึ่ง ตาม คำ ของ ผู้เสียหาย ดังกล่าว นี้ ไม่ปรากฏ ว่า จำเลย ได้ ขู่เข็ญ ผู้เสียหาย ว่า จะ เปิดเผย ความลับ แต่อย่างใด คง ได้ ความ แต่ เพียง ว่า จำเลย ได้ เรียก และ รับ เงิน จากผู้เสียหาย โดย อ้าง ว่า สามารถ ช่วย จำเลย ได้ โดย จะ ให้ เจ้านาย ของจำเลย ลงชื่อ รับรอง ให้ การ กระทำ ของ จำเลย ถึง หาก จะ เป็น ความจริงดัง ที่ ผู้เสียหาย เบิกความ กรณี ก็ ไม่ ใช่ เป็น การ ขู่เข็ญ ว่าจะ เปิดเผย ความลับ อัน จะ เป็น ความผิด ฐาน รีด เอา ทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 ดัง โจทก์ ฟ้อง ที่ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง โจทก์ มา นั้น ศาลฎีกา เห็นพ้อง ด้วย ใน ผล
พิพากษา ยืน

Share