คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2484/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่จำเลยให้การปฏิเสธ เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะพิสูจน์ความผิดของจำเลยโดยนำพยานเข้าสืบเสร็จแล้วให้จำเลยนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ต่อไป ต่อจากนั้นศาลจึงจะวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน
พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวหาว่า ฉุดคร่าผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ไปเสียจากความปกครองดูแลของ ผ. ซึ่งเป็นผู้ปกครอง โดยผู้เสียหายไม่เต็มใจไปด้วยจำเลยให้การปฏิเสธ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลได้เรียกผู้เสียหายมาสอบถาม ผู้เสียหายแถลงว่าตนเองเต็มใจไปกับจำเลยเพื่ออยู่กินฉันสามีภริยา โดยมิได้มีการฉุดคร่าแต่อย่างใด โจทก์แถลงขอสืบพยาน ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้วจึงสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์ ดังนี้ คดียังไม่มีการสืบพยาน คำแถลงของผู้เสียหายไม่ใช่คำพยานที่ได้มาจากการนำสืบ และโจทก์หาได้ยอมรับไม่ เพราะโจทก์ยังติดใจสืบพยานอื่นอยู่อีกการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่หลบหนีอีก ๒ คน ได้บังอาจร่วมกันฉุดคร่าพรากนางสาวโสภา คำแก้ว ผู้เยาว์อายุกว่าสิบสามปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปจากความปกครองของนางสาวผิว คำแก้ว ผู้ปกครอง โดยนางสาวโสภา คำแก้ว ไม่เต็มใจไปด้วยขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๑๘, ๘๓ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๔ ข้อ ๑๒
จำเลยให้การปฏิเสธ
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลได้เรียกนางสาวโสภา คำแก้ว ผู้เสียหายไปสอบถาม นางสาวโสภาผู้เสียหายแถลงว่าตนเองเต็มใจไปกับจำเลย เพื่ออยู่กินเป็นสามีภริยากัน โดยมิได้ถูกฉุดคร่าแต่อย่างใด ต่อมาได้จดทะเบียนสมรสและขณะนี้มีบุตรกับจำเลยหนึ่งคน โจทก์แถลงขอสืบพยานต่อไป ศาลชั้นต้นเห็นว่าการสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปไม่ทำให้ได้ความชัดขึ้นอีก และคดีพอวินิจฉัยได้แล้วจึงให้งดสืบพยานโจทก์จำเลย แล้ววินิจฉัยว่าคดีฟังได้ว่า นางสาวโสภา คำแก้ว ได้ยินยอมไปกับจำเลย เพื่ออยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาโดยสมัครใจ คดีจึงขาดองค์ประกอบความผิด การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น และให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์จำเลย และพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยให้การปฏิเสธ เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องพิสูจน์ความผิดของจำเลยโดยนำพยานเข้าสืบ เสร็จแล้วให้จำเลยนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ต่อไป ต่อจากนั้นศาลจึงจะวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวนคดีนี้ยังไม่มีการสืบพยาน คำแถลงของผู้เสียหายไม่ใช่คำพยานที่ได้มาจากการนำสืบและไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ศาลจะวินิจฉัยและรับฟังเป็นยุติ เพราะโจทก์ยังติดใจสืบพยานอยู่ ดังนั้น การที่ศาลสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลย แล้ววินิจฉัยจากคำแถลงของผู้เสียหายว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด และพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นจึงยังไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
พิพากษายืน

Share