แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับผู้เสียหายไม่มีสาเหตุต่อกันจำเลยเมาใช้มีดพกเล็กๆกว้าง 2 ซม.ยาว111/2ซม. แทงผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส พฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่าจำเลยได้มีเจตนาจะฆ่าให้ตาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดพกปลายแหลมแทงนายดาวบาดเจ็บสาหัสและยังติดตามจะทำร้ายต่อไปอีกโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย หากมีเหตุอันพ้นวิสัยมาขัดขวางเสียโดยมีดไม่ถูกอวัยวะส่วนสำคัญ นายดาวจึงไม่ตายขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 249, 60,41, 42, 72
ชั้นแรกจำเลยปฏิเสธคงรับเฉพาะข้อเคยต้องโทษครั้นสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้วจำเลยรับสารภาพ และโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพยานต่อไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 249 – 60ให้จำคุก 10 ปี เพิ่มโทษ 1 ใน 3 ตาม มาตรา 72 เป็น 13 ปี 4 เดือนลดตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่ง คงเหลือ 6 ปี 8 เดือน และเอาโทษที่รอการลงอาญาไว้อีก 2 เดือนมาบวกเข้าด้วยเป็น 6 ปี 10 เดือนมีดของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าให้ตาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลย4 ปี ตาม กฎหมายอาญา มาตรา 256 เพิ่มโทษ 1 ใน 3 ตาม มาตรา 72 เป็น 5 ปี 4 เดือน ลดฐานปราณีกึ่งหนึ่งตาม มาตรา 59 เหลือ 2 ปี 8 เดือน และบวกโทษที่รอไว้เข้าด้วยคงจำคุกจำเลย 2 ปี 10 เดือน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่านายดาวตามศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยกับนายดาวไม่มีสาเหตุต่อกันอันจะแสดงให้เห็นว่าจำเลยตั้งใจจะฆ่านายดาวให้ถึงแก่ความตายมีดที่ใช้แทงก็เป็นมีดพกเล็ก ๆ กว้าง 2 ซม. ยาว 11 1/2 ซม.เท่านั้นรูปคดีน่าเชื่อว่าจำเลยกระทำไปโดยฤทธิ เมา พฤติการณ์ทั้งหลายนี้ไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่าจำเลยเจตนาจะฆ่าให้ตายจำเลยจึงควรผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส
พิพากษายืน