แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยเป็นลูกจ้างของผู้เสียหาย มีหน้าที่ทำใบเบิกสินค้าจำเลยได้เขียนใบเบิกสินค้าตามใบสั่งซื้อจำนวน 5 รายการ และเบิกสินค้าโดยไม่มีใบสั่งซื้อจำนวน 2 รายการ คือ จานเปล 48 ใบและโถ สำหรับใส่อาหาร 12 ใบ แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้เข้ายึดถือครอบครองเอาจานเปลและโถดังกล่าวไป เนื่องจากมีผู้มาพบสินค้าดังกล่าวเสียก่อน แสดงว่าสินค้ายังคงอยู่ในความครอบครองของผู้เสียหายแต่การที่จำเลยเขียนใบเบิกสินค้าอันเป็นเท็จจำนวน2 รายการ ถือว่าเป็นการลงมือกระทำความผิดฐานลักทรัพย์แล้ว แต่กระทำไปไม่ตลอด จึงเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ของผู้เสียหายซึ่งเป็นนายจ้าง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525มาตรา 11
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(11) วรรคสอง ให้ลงโทษจำคุก 3 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว โจทก์มีนายทศพลเตี๋ยสมบูรณ์ ลูกจ้างผู้เสียหายซึ่งดำรงตำแหน่งวางแผนการผลิต มีหน้าที่รับใบสั่งสินค้าจากลูกค้าเบิกความว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุเมื่อได้รับใบสั่งสินค้าตามเอกสารหมาย จ.1 จำนวน 3 รายการแล้วได้ถ่ายสำเนาเอกสารส่งให้นายสุวัฒน์ เราจนานนท์ หัวหน้าแผนกคลังสินค้าและบรรจุ เพื่อเบิกสินค้ามาบรรจุหีบห่อแล้วส่งให้ลูกค้าและโจทก์มีนายสุวัฒน์มาเบิกความว่า เมื่อได้รับใบสั่งซื้อสินค้าจากนายทศพลตามเอกสารหมาย จ.1 แล้ว ได้ลงนามกำกับไว้แล้วมอบให้จำเลยไปดำเนินการเบิกสินค้ามาเพื่อบรรจุ การทำใบเบิกสินค้าเป็นหน้าที่ของจำเลย ทางปฏิบัติจำเลยไม่เคยมอบหมายให้คนอื่นทำเลย โจทก์ยังมีนายพิเชษฐ์ โตชยามานนท์ หัวหน้าคลังสินค้ามาเบิกความว่า จำเลยได้นำใบเบิกสินค้าเอกสารหมาย จ.2 มายื่นด้วยตนเอง พยานได้จัดสินค้าทั้ง 5 รายการให้แล้ว จากคำเบิกความของพยานโจทก์ดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า หน้าที่ทำใบเบิกสินค้าเป็นหน้าที่เฉพาะของจำเลยโดยตรง เมื่อความปรากฏต่อนายทศพลและนายสุวัฒน์ว่า ใบเบิกสินค้าเอกสารหมาย จ.2 เบิกสินค้าจำนวน5 รายการเกินไปจากใบสั่งซื้อเอกสารหมาย จ.1 จำนวน 2 รายการได้แก่ จานแปลและโถอาหารแล้ว นายสุวัฒน์เบิกความว่า ได้เรียกจำเลยมาสอบถามจำเลยบอกว่าเบิกมาสำหรับรายการสั่งซื้อสินค้าอีกฉบับหนึ่ง พยานขอดูใบสั่งซื้อ จำเลยหาไม่พบและบอกว่า สงสัยนายเพชรสวรรค์ผู้ช่วยของจำเลยเก็บไว้ ครั้นพยานพบนายเพชรสวรรค์นายเพชรสวรรค์บอกว่าช่วงนี้ไม่มีรายการสั่งซื้อสินค้า 2 รายการนั้นดังนี้คำเบิกความดังกล่าวเป็นการแสดงข้อพิรุธของจำเลยว่า จำเลยเบิกสินค้าโดยไม่มีใบสั่งซื้อจำนวน 2 รายการ จำเลยเบิกความรับว่า ใบเบิกสินค้าเอกสารหมาย จ.2 นั้น จำเลยเป็นผู้เขียนและลงชื่อยกเว้นสินค้า 2 รายการดังกล่าวจำเลยไม่ได้เขียนเบิกแต่อย่างใดได้พิเคราะห์ลายมือที่เขียนเบิกสินค้า 2 รายการดังกล่าว เทียบกับลายมือที่เขียนเบิกสินค้าอีก 3 รายการ ที่จำเลยรับว่าเป็นผู้เขียนในเอกสารหมาย จ.2 แล้ว เห็นว่า มีลักษณะลีลาการเขียนเป็นอย่างเดียวกัน ขนาดของตัวเลขก็เท่ากัน ดังนี้ เมื่อพิจารณาเหตุผลดังวินิจฉัยข้างต้นประกอบคำรับของจำเลยเข้าด้วยกันแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้เขียนใบเบิกสินค้าเอกสารหมาย จ.2 ทั้ง5 รายการ และเบิกสินค้าโดยไม่มีใบสั่งซื้อ 2 รายการ โดยทุจริตเพื่อลักทรัพย์อันเป็นการลงมือกระทำความผิดฐานลักทรัพย์แล้วแต่ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบไม่ปรากฏว่าจำเลยได้เข้ายึดถือครอบครองเอาทรัพย์จำนวน 2 รายการ ดังกล่าวไป คงปรากฏจากคำเบิกความของนายพิเชษฐ์เพียงว่า จำเลยจะไปรับสินค้าที่เบิกจำนวน5 รายการเองหรือลูกน้องเป็นผู้มารับไม่ทราบ และคำเบิกความของนายทศพลว่า ตอนที่พบสินค้า 5 รายการ สินค้านั้นกำลังจะนำไปที่แผนกบรรจุ ทั้งเมื่อสินค้าดังกล่าวถูกนำไปที่แผนกบรรจุแล้วก็ไม่ปรากฏจากคำเบิกความของพยานโจทก์คนใดเลยว่า ใครเป็นผู้นำไป และสินค้าก็ยังอยู่ในความครอบครองของผู้เสียหายดังนั้น การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์นำสืบ จึงฟังได้เพียงว่าจำเลยได้เขียนใบเบิกสินค้าอันเป็นเท็จจำนวน 2 รายการ อันเป็นการลงมือกระทำความผิดฐานลักทรัพย์แล้ว แต่กระทำไปไม่ตลอดเท่านั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ของผู้เสียหายซึ่งเป็นนายจ้างพยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้…”
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา335(11) วรรคแรก, 80 ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี คำรับของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลงหนึ่งในสี่ คงลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี 6เดือน.