แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ม.สมัครใจเข้าวิวาทโดยใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับจำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงเป็นกรณีที่ ม. สมัครใจยินยอมเข้าเสี่ยงภัยยอมรับอันตรายหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นแก่ตนจากการยิงต่อสู้ของจำเลยที่ 1 ที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 1 ยิงถูก ม.ถึงแก่ความตายในการต่อสู้กันนั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อ ม. จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่จำต้องรับผิดชอบใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุที่ทำให้ ม.ถึงแก่ความตายนั้นแต่อย่างใด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภรรยาของนายมนัส มีบุตรด้วยกัน ๓ คน นายมนัสถูกจำเลยทั้งสามร่วมกันใช้อาวุธปืนกับมีด ยิง ตี และฟันถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ฯลฯ ขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้นเป็นเงิน ๔๑๔,๐๐๐ บาท ให้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การว่า นายมนัสเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนโดยใช้อาวุธปืนยิงจำเลยที่ ๑ กับพวก จำเลยที่ ๑ จึงใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัว จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง จำเลยที่ ๓ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต สำหรับคดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ คู่ความตกลงกันว่านายมนัสผู้ตาย ฝ่ายหนึ่งและจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ฝ่ายหนึ่ง สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายตามรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วในคดีส่วนอาญา ขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดว่าเมื่อเป็นกรณีสมัครใจเข้าวิวาทกัน จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ ความเสียหายของโจทก์ให้คิดเป็นเงินรวม ๑๐๐,๐๐๐ บาท ในกรณีที่จำเลยต้องรับผิด ถ้าศาลเห็นว่าไม่ควรรับผิดเต็มจำนวน ก็ให้นำพยานหลักฐานทั้งหลายที่ปรากฏในคดีส่วนอาญามาพิจารณาว่าตามพฤติการณ์จำเลยควรต้องรับผิดเป็นร้อยละเท่าใด
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ทุกคนร่วมกันเป็นจำนวน ๖๕,๐๐๐ บาท ฯ
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันชดใช้ค่าสินสินทดแทนเป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทแก่โจทก์ ฯ
โจทก์กับจำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นายมนัสฝ่ายหนึ่งกับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ อีกฝ่ายหนึ่ง ได้สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกันโดยต่างฝ่ายต่างใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กันผลการต่อสู้นายมนัสถูกกระสุนของจำเลยที่ ๑ ถึงแก่ความตาย โจทก์ซึ่งเป็นภรรยาและบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายมนัส จึงมาฟ้องเป็นคดีนี้อ้างว่านายมนัสถึงแก่ความตายจากการกระทำละเมิดของจำเลยทั้งสอง และวินิจฉัยว่าการที่นายมนัสสมัครใจเข้าวิวาทโดยใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ นี้ เป็นกรณีที่นายมนัสสมัครใจยินยอมเข้าเสี่ยงภัยยอมรับอันตรายหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นแก่ตนจากการยิงต่อสู้ของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ การที่จำเลยที่ ๑ ยิงถูกนายมนัสถึงแก่ความตายในการต่อสู้กันนั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อนายมนัส จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ไม่จำต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุที่ทำให้นายมนัสถึงแก่ความตายนั้นแต่อย่างใด
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์