คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248-249/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้ให้การโต้แย้งตั้งแต่ต้นว่าสัญญากู้ฉะบับที่โจทก์มาฟ้องนี้ เป็นสัญญาที่ทำปลอมขึ้น และยังยื่นคำแถลงยืนยันว่าลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยโดยมีลวดลายแตกต่างกันหลายประการ จำเลยขอพิศูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญ ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าข้อที่จำเลยขอนำพิศูจน์เป็นข้อความสำคัญประการหนึ่งในข้อต่อสู้ของจำเลย และเมื่ออาจกระทำให้ข้อเท็จจริงอันคลุมเคลือกระจ่างแจ้งชัดแน่ชัดยิ่งขึ้น ศาลไม่ควรสั่งงดการนำสืบในประการนี้เสีย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ตามสัญญากู้จำนวนเงิน ๑,๐๐๐๐ บาทจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่าไม่เคยกู้เงินโจทก์ สัญญากู้นั้นปลอม
ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาสืบพยานโจทก์และสืบพยานจำเลยไปบ้าง จำเลยร้องขอให้ส่งลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยพร้อมกับลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญากู้ไปให้ ร.ต.ท.เล็กผู้เชี่ยวชาญกองตำรวจสันติบาลพิศูจน์ว่าจะเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของคน ๆ เดียวกันหรือไม่ แต่ศาลชั้นต้นส่งงดสืบเสียไม่อนุญาต เพราะเห็นว่า หลักฐานพยานโจทก์ฟังได้มั่นคงแล้วแม้จะส่งไปให้สันติบาลพิศูจน์ลายมือ ก็ไม่ช่วยให้ข้อเท็จจริงผิดแยกไป พิพากษาให้จำเลยใช้เงินกู้ตามสัญญาแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ และโต้แย้งคำสั่งที่งดสืบพยาน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำพยานทั้งสองฝ่าย ยังโต้เถียงกันอยู่ ควรได้รับการนำสืบพิศูจน์ให้สิ้นกระแสร์ความ จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามคำขอของจำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้ให้การโต้แย้งตั้งแต่ต้นว่าสัญญากู้ฉะบับที่โจทก์มาฟ้องเป็นสัญญาปลอมขึ้น และยังยื่นคำแถลงการณ์ยืนยันว่า ลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญากู้นั้นมิใช่ลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย โดยมีลวดลายแตกต่างกันหลายประการ ซึ่งจำเลยขอนำพิศูจน์ว่าเป็นดังนี้ จึงถือเป็นข้อความสำคัญประการหนึ่งในข้อต่อสู้ของจำเลย และอาจกระทำให้ข้อเท็จจริงอันคลุมเคลือกระจ่างแจ้งชัดยิ่งขึ้นคดียังไม่มีเหตุผลอันสมควรที่ศาลชั้นต้นจะสั่งงดการนำสืบในประการนี้เสียได้ จึงพิพากษายืน

Share