คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2477/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

แม้มีจำนองหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็มีสิทธิบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ มิใช่เจ้าหนี้จะได้แต่บังคับจำนองเท่านั้นแต่การที่จะสั่งให้ลูกหนี้วางประกันก่อนสั่งให้ลูกหนี้รับเงินที่ขายทรัพย์ไปได้หรือไม่ ไม่เป็นการสมควร ศาลชั้นต้นต้องสั่งใหม่

ย่อยาว

เดิมโจทก์ฟ้องเรียกหนี้ที่จำเลยกู้เงินไปดำเนินการผลิตใบยาสูบแห้งจากโจทก์ไปค้ากำไร กับหนี้ที่จำเลยขอให้โจทก์ออกหนังสือค้ำประกันต่อธนาคาร แล้วโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน มีใจความสำคัญว่าจำเลยยอมใช้หนี้ต้นเงินจำนวน 20,237,300 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในต้นเงินดังกล่าวอัตราร้อยละสิบสองต่อปีนับแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2518 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จให้โจทก์ โดยผ่อนชำระเป็นงวดตามที่กำหนดไว้ภายในกำหนดเวลา 12 ปี ผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งถือว่าผิดนัดทั้งหมด ในการนี้จำเลยยอมจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามรายการต่อท้ายสัญญาเป็นประกันการชำระหนี้ตามสัญญาด้วย ศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ คดีถึงที่สุด

ต่อมาจำเลยไม่ชำระหนี้ โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีและนำยึดที่ดินตามรายการที่จำเลยจำนองประกันหนี้ท้ายสัญญาประนีประนอมยอมความ เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินบางแปลง โดยติดจำนองได้เงินจากการขายทอดตลาด 400,000 บาท โดยผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดนำเงินมาวางศาลครบถ้วน

จำเลยยื่นคำร้องขอรับเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยจำนวน 400,000 บาทไปจากศาล อ้างว่าการจำนองนั้นเป็นประกันหนี้ตามคำพิพากษาทั้งหมด ผู้ที่ซื้อทรัพย์ของจำเลยได้จากการขายทอดตลาดมีหน้าที่จะต้องชำระหนี้ไถ่จำนอง และการจดทะเบียนจำนองค้ำประกันหนี้ตามคำพิพากษาไม่มีข้อตกลงว่าถ้าบังคับจำนองได้เงินไม่พอชำระหนี้ จำเลยจะต้องรับผิดในส่วนที่ขาด ดังนั้น ไม่ว่าโจทก์จะบังคับจำนองได้เงินพอชำระหนี้หรือไม่จำเลยไม่มีหน้าที่ต้องรับผิด โจทก์จึงไม่มีสิทธิในการที่จะได้รับชำระหนี้จากจำเลยอีก ต้องถือว่าเงินที่ขายทอดตลาดได้เป็นส่วนเกินจากการบังคับจำนองตกเป็นสิทธิของจำเลย

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องของจำเลยดังกล่าวข้างต้นว่าคำร้องของจำเลยอาจจะมีเหตุผลอยู่บ้าง แต่ศาลยังไม่พิจารณาว่าจำเลยควรจะได้รับเงินตามขอไปหรือไม่ ก่อนอื่นให้จำเลยนำหลักทรัพย์อื่นของจำเลยมาวางศาลเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 400,000 บาทก่อน ศาลจึงจะพิจารณาคำร้องนี้ และจะได้นัดพร้อมต่อไป ให้จำเลยนำหลักทรัพย์ประกันมาวางศาลใน 15 วันมิฉะนั้นให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมส่วนนี้ให้เป็นพับ

จำเลยฎีกาว่า เงินที่จำเลยขอรับไปจากศาลนั้นไม่ต้องใช้สำหรับการบังคับคดี ต้องคืนให้จำเลย และไม่มีกฎหมายให้จำเลยต้องวางหลักประกันถ้าจะให้วางหลักประกันควรเปิดโอกาสให้จำเลยนำหลักทรัพย์ของผู้อื่นที่ยอมผูกพันรับผิดมาวางได้

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่าแม้เรื่องนี้จำเลยมิได้ผูกพันกับโจทก์เฉพาะการจำนองที่ดินประกันหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้นหากแต่จำเลยจะต้องรับผิดชำระหนี้แก่โจทก์ให้ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ในคำพิพากษาด้วย โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากจำเลยโดยสิ้นเชิง และต้องถือว่าทรัพย์ทุกอย่างของจำเลยเป็นทรัพย์ที่โจทก์อาจบังคับได้ตราบเท่าที่โจทก์ยังได้รับชำระหนี้ไม่ครบถ้วน โจทก์บังคับคดียึดที่ดินของจำเลยขายทอดตลาดได้เงินมาเพียงบางส่วน เงินจำนวนนี้เป็นทรัพย์ของจำเลยที่โจทก์ยังมีสิทธิได้รับชำระหนี้ จำเลยขอรับเงินไปจากศาลในขณะที่ยังไม่เป็นการแน่นอนว่าโจทก์จะบังคับจำนองจากผู้ซื้อทอดตลาดได้เงินครบตามจำนวนหนี้หรือไม่ก็ตาม แต่ศาลชั้นต้นยังมิได้มีคำสั่งว่าจะอนุญาตให้จำเลยรับเงินไปได้ ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นเรียกหลักประกันไว้ก่อนมีคำสั่งยังไม่เป็นการสมควร

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และยกคำสั่งศาลชั้นต้นย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในเรื่องนี้ใหม่ ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share