แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้ภายหลัง ส. และ ว. จะถูกถอดถอนไม่ได้เป็นทนายความให้จำเลยทั้งสี่ก็ตามแต่คำท้าสาบานซึ่งถือว่าเป็นการยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้องซึ่ง ส. และ ว.มีอำนาจทำได้ตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากจำเลยทั้งสี่ตามที่ระบุในใบแต่งทนายความก็มีผลบังคับได้ตามกฎหมายจำเลยทั้งสี่จึงมิอาจถอนคำท้าได้แม้จะได้ถอดถอน ส. และ ว. จากการเป็นทนายความก่อนถึงวันนัดท้าสาบานก็ตามเมื่อโจทก์สาบานได้ตามคำท้าจำเลยทั้งสี่จึงต้องแพ้คดี
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ พิพากษา ว่า นิติกรรม ยกให้ ที่ดิน ตาม น.ส.3 ก.เลขที่ 701 เล่ม 8 ก. หน้า 1 เลขที่ ดิน 18 ตำบล ชานุมาน อำเภอ ชานุมาน จังหวัด อุบลราชธานี ระหว่าง จำเลย ทั้ง สี่ เป็น โมฆะ ให้ จำเลย ทั้ง สี่ จดทะเบียน แบ่งแยก ที่ดินพิพาท ให้ แก่ โจทก์ ครึ่ง หนึ่งของ เนื้อที่ ทั้ง แปลง หาก แบ่ง ไม่ได้ ไม่ว่า ด้วย ประการใด ให้ นำ ที่ดินพิพาท ออก ขายทอดตลาด นำ เงิน มา แบ่ง ให้ แก่ โจทก์ ตาม ส่วน กับ ให้ จำเลยทั้ง สี่ ใช้ ค่าเสียหาย ให้ แก่ โจทก์ ปี ละ 7,000 บาท นับ จาก วันฟ้อง เป็นต้นไป จนกว่า จำเลย ทั้ง สี่ จะ แบ่งแยก ที่ดินพิพาท ให้ แก่ โจทก์
จำเลย ทั้ง สี่ ให้การ ขอให้ ยกฟ้อง
ระหว่าง พิจารณา คู่ความ ตกลง ท้า กัน ว่า ถ้า โจทก์ ยอม สาบานต่อ พระประธาน วัด ศิริมงคล บ้านโคกสาร ตำบล โคกสาร อำเภอชานุมาน จังหวัด อุบลราชธานี และ พระประธาน วัด ปากแซง บ้านปากแซง อำเภอ เขมราฐ จังหวัด อุบลราชธานี ว่า ที่ดินพิพาท เป็น ทรัพย์มรดก ที่ ยัง ไม่ได้ แบ่ง และ จำเลย ทั้ง สี่ ครอบครองแทน โจทก์ แล้ว จำเลยทั้ง สี่ ยอม แบ่ง ที่ดินพิพาท ให้ แก่ โจทก์ ครึ่ง หนึ่ง แต่ ถ้า โจทก์ ไม่ยอมสาบาน ให้ ถือว่า โจทก์ ยอม แพ้ ใน การ สาบาน คู่ความ ตกลง ให้ กระทำ ต่อหน้าจ่าศาล ถ้า โจทก์ ไม่ไป โดย ไม่มี ข้อ แก้ตัว อัน สมควร ให้ ถือว่า โจทก์ไม่ยอม สาบาน ถ้า ฝ่าย จำเลย ไม่ไป ก็ ให้ ดำเนินการ สาบาน ไป ได้ ศาลชั้นต้นอนุญาต ให้ เป็น ไป ตาม ที่ คู่ความ ท้า กัน ก่อน ถึง วันนัด สาบาน ทนายความจำเลย ทั้ง สี่ ที่ ได้รับ แต่งตั้ง ใหม่ ยื่น คำร้อง ว่า จำเลย ทั้ง สี่ไม่ยอม รับคำ ท้า ทนายความ จำเลย ทั้ง สี่ เดิม รับคำ ท้า ไป โดย จำเลย ทั้ง สี่มิได้ แต่งตั้ง ให้ มีอำนาจ เช่นนั้น จำเลย ทั้ง สี่ มิได้ ให้ สัตยาบันขอให้ ศาล ทำการ ไต่สวน และ มี คำสั่ง ยกเลิก คำท้า ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ว่าใบแต่งทนายความ ของ จำเลย ทั้ง สี่ ระบุ ให้ อำนาจ แก่ ทนายความ ว่า ยอมรับตาม ที่ คู่ความ อีกฝ่าย หนึ่ง เรียกร้อง แล้ว เมื่อ ปรากฏว่า ทนายความ จำเลยทั้ง สี่ ยอมรับ ตาม ที่ ฝ่าย โจทก์ ท้า ให้ สาบาน อันเป็น การ สละ ประเด็นข้อพิพาท ที่ มี อยู่ เดิม คำแถลง รับ ของ ทนายความ จำเลย ทั้ง สี่ จึง มีผล ผูกพัน จำเลย ทั้ง สี่ ใน ฐานะ ที่ เป็น ตัวการ เมื่อ ไม่ปรากฏ ว่า ทาง ฝ่ายโจทก์ ตกลง ให้ยก เลิก คำท้า ด้วย กรณี จึง ไม่มี เหตุ ที่ จะ ให้ ไต่สวน คำร้องให้ ดำเนิน กระบวนพิจารณา ตาม คำท้า ต่อไป ยกคำร้อง ทนายความ จำเลยทั้ง สี่ แถลง คัดค้าน คำสั่ง ครั้น ถึง วันนัด สาบาน ตาม คำท้า ฝ่าย จำเลยทั้ง สี่ ไม่ไป โจทก์ สาบาน ได้ ตาม คำท้า
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สี่ จดทะเบียน แบ่งแยก ที่ดิน ตามน.ส.3 ก. เลขที่ 701 เล่ม 8 ก. หน้า 1 เลขที่ ดิน 18 ตำบล ชานุมาน อำเภอ ชานุมาน จังหวัด อุบลราชธานี ให้ แก่ โจทก์ ใน จำนวน เนื้อที่ ครึ่ง หนึ่ง ของ ที่ดิน ทั้ง แปลง ถ้า แบ่ง ไม่ได้ ไม่ว่า ด้วย ประการใด ให้ นำที่ดิน ออก ขายทอดตลาด แล้ว นำ เงิน ที่ ได้ แบ่ง ให้ แก่ โจทก์ ตาม ส่วน คำขอ อื่นให้ยก
จำเลย ทั้ง สี่ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลย ทั้ง สี่ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “คดี ได้ความ ว่า เมื่อ วันที่ 16 กรกฎาคม 2535โจทก์ จำเลย ตกลง ท้า สาบาน เป็น ข้อ แพ้ ชนะ ใน คดี ก่อน ถึง ใน วันนัด สาบานตาม คำท้า ครั้งแรก จำเลย ที่ 2 ที่ 3 ยื่น คำร้อง ว่า ใน วันนัด ไม่ได้ มาศาล การ ที่ จำเลย ที่ 1 ตกลง ท้า กับ โจทก์ นั้น จำเลย ที่ 2 ที่ 3ไม่ทราบ เรื่อง ไม่ได้ ให้ ความ ยินยอม ด้วย ขอคัด ค้าน ขอให้ งด การท้า และ ดำเนิน กระบวนพิจารณา ต่อไป ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว ให้ยกคำร้อง ของ จำเลย ที่ 2 ที่ 3 และ คู่ความ นัด ไป สาบาน กัน ใหม่ วันที่8 สิงหาคม 2535 เวลา 9 นาฬิกา ทนายความ จำเลย ทั้ง สี่ ลงชื่อทราบ วันนัด ไว้ ต่อมา วันที่ 7 สิงหาคม 2535 จำเลย ทั้ง สี่ แต่งตั้งทนายความ คนใหม่ และ ขอ ถอน ทนายความ คนเดิม อ้างว่า มี ความ คิดเห็นไม่ ตรง กัน และ ใน วันเดียว กัน นั้น ทนายความ ของ จำเลย ทั้ง สี่ คนใหม่ ยื่นคำร้อง ต่อ ศาลชั้นต้น ขอให้ ยกเลิก คำท้า เพราะ จำเลย ที่ 1 หลงผิด และจำเลย ที่ 2 ถึง ที่ 4 มิได้ ตกลง ด้วย ทนายความ จำเลย ทั้ง สี่ คนเดิมไม่มี อำนาจ รับคำ ท้า ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ให้ยก คำร้อง ซึ่ง ทนายความ ของจำเลย ทั้ง สี่ คนใหม่ ได้ ทราบ คำสั่งศาล แล้ว คดี คง มี ปัญหา วินิจฉัย ตามฎีกา ของ จำเลย ทั้ง สี่ ว่า คำท้า นั้น ชอบ หรือไม่ ที่ จำเลย ทั้ง สี่ อ้างว่ารับคำ ท้า ไป โดย สำคัญผิด จำเลย ที่ 1 ไม่ทราบ ข้อเท็จจริง และ จำเลย ทั้ง สี่ได้ ขอ ยกเลิก กระบวนพิจารณา ที่ เป็น โมฆะ ก่อน มี การ สาบาน นั้น เห็นว่าใน การ ดำเนินคดี จำเลย ทั้ง สี่ ได้ แต่งตั้ง ให้ นาย ไสว มุทุกันต์ เป็น ทนายความ ใน วันนัด สืบพยานโจทก์ เมื่อ วันที่ 16 กรกฎาคม 2535โจทก์ ทนายความ ของ โจทก์ จำเลย ที่ 1 และ ทนายความ ของ จำเลย ทั้ง สี่ มา ศาลคู่ความ ตกลง ท้า กัน ปรากฏ ตาม รายงาน กระบวนพิจารณา ของ ศาลชั้นต้น ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2535 ศาลชั้นต้น อ่าน รายงาน กระบวนพิจารณาให้ คู่ความ ฟัง จำเลย ที่ 1 และ นาย ไสว ทนายความ ของ จำเลย ทั้ง สี่ ได้ ลงชื่อ ไว้ ใน รายงาน กระบวนพิจารณา โดย ไม่ได้ โต้แย้ง คัดค้านและ ใน วัน ดังกล่าว หลังจาก ที่ ศาลชั้นต้น จด รายงาน กระบวนพิจารณาเกี่ยวกับ เรื่อง ที่ คู่ความ ท้า กัน แล้ว นาย ไสว ได้ ยื่น คำแถลง ต่อ ศาลชั้นต้น เกี่ยวกับ ข้อความ ที่ ขอให้ โจทก์ สาบาน ซึ่ง โจทก์ เห็นชอบตาม ที่ จำเลย ทั้ง สี่ จะ ขอให้ สาบาน เมื่อ จำเลย ทั้ง สี่ แต่งตั้ง นาย ไสว ให้ เป็น ทนายความ และ ให้ มีอำนาจ ดัง ที่ ระบุ ไว้ ใน ใบแต่งทนายความตราบใด ที่ จำเลย ทั้ง สี่ ยัง มิได้ ถอด ถอน นาย ไสว ออกจาก การ เป็น ทนายความ ถือได้ว่า นาย ไสว ยัง คง เป็น ทนายความ ที่ มีอำนาจ ว่าความ และ ดำเนิน กระบวนพิจารณา ใด ๆ แทน จำเลย ทั้ง สี่ ได้ ตาม ใบแต่งทนายความและ ตาม ที่ เห็นสมควร เพื่อ รักษา ผลประโยชน์ ของ จำเลย ทั้ง สี่ ตามรายงาน กระบวนพิจารณา ของ ศาลชั้นต้น ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2535 และวันที่ 22 กรกฎาคม 2535 ซึ่ง เป็น นัดพิจารณา ที่ คู่ความ ตกลง ท้า สาบานและ นัด พร้อม หรือ นัดฟัง คำพิพากษา ตามลำดับ ปรากฏว่า จำเลย ทั้ง สี่ยัง มิได้ ถอด ถอน นาย ไสว การ ที่ จำเลย ที่ 1 และ นาย ไสว รับคำ ท้า และ ได้ ลงชื่อ ไว้ ใน รายงาน กระบวนพิจารณา ของ ศาลชั้นต้น โดย ไม่ได้โต้แย้ง คัดค้าน และ ยัง เสนอ คำ สาบาน ต่อ ศาลชั้นต้น อีก จึง เป็น การกระทำโดยชอบ มิได้ สำคัญผิด แต่อย่างใด ซึ่ง จำเลย ทั้ง สี่ ต้อง ผูกพัน ตาม คำท้าจะ อ้างว่า รับคำ ท้า ไป โดย สำคัญผิด หาได้ไม่ คำท้า ดังกล่าว จึง ชอบ ด้วยกฎหมาย ส่วน ที่ จำเลย ทั้ง สี่ ฎีกา ว่า จำเลย ทั้ง สี่ ได้ ถอด ถอน นาย ไสว และ นาย วิทยา ยอดธรรม ออกจาก การ เป็น ทนายความ ก่อน ที่ จะ มี การ สาบาน ตาม คำท้า และ ศาลชั้นต้น อนุญาต ให้ จำเลย ทั้ง สี่ ถอด ถอนทนายความ ทั้ง สอง ได้ การ ดำเนิน กระบวนพิจารณา ก่อน นั้น ย่อม ไม่สมบูรณ์ตาม กฎหมาย นั้น เห็นว่า เมื่อ จำเลย ทั้ง สี่ แต่งตั้ง ให้ นาย ไสว และ จำเลย ที่ 2 ที่ 3 แต่งตั้ง ให้ นาย วิทยา เป็น ทนายความ และ ให้ มี อำนาจ ดำเนินคดี แทน จำเลย ทั้ง สี่ ตาม ที่ ระบุ ไว้ ใน ใบแต่งทนายความดังนั้น การกระทำ ของ นาย ไสว และ นาย วิทยา ใน ฐานะ ทนายความ ย่อม มีอำนาจ กระทำ แทน จำเลย ทั้ง สี่ ได้ และ ถือว่า เป็น การกระทำ โดยชอบแม้ ภายหลัง นาย ไสว และ นาย วิทยา จะ ไม่ได้ เป็น ทนายความ ให้ จำเลย ทั้ง สี่ แต่ การกระทำ ของ นาย ไสว และ นาย วิทยา ที่ ได้ กระทำ ไป ตาม อำนาจ หน้าที่ ที่ ได้รับ มอบหมาย จาก จำเลย ทั้ง สี่ ก่อน ที่ จะ ถูก ถอด ถอนก็ เป็น อัน สมบูรณ์ มีผล บังคับ ได้ ตาม กฎหมาย มิเสีย ไป ดังนั้น คำท้าสาบาน และ กำหนด วันนัด สาบาน ตาม คำท้า ที่นาย ไสว ทนายความ ของ จำเลย ทั้ง สี่ กระทำ ไป ถือได้ว่า เป็น การ ยอมรับ ตาม ที่ คู่ความ อีกฝ่ายหนึ่ง เรียกร้อง ซึ่ง มีอำนาจ ทำได้ และ จำเลย ทั้ง สี่ ต้อง ผูกพัน ตาม คำท้า สาบาน และ วันนัด สาบาน ตาม คำท้า เมื่อ โจทก์ สาบาน ได้ ตาม คำท้าจำเลย ทั้ง สี่ จึง ต้อง แพ้ คดี ศาลชั้นต้น และ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษา ชอบแล้ว ศาลฎีกา เห็นพ้อง ด้วย ฎีกา ของ จำเลย ทั้ง สี่ ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน