คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2469/2560

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ป.อ. มาตรา 22 วรรคหนึ่ง เป็นบทกำหนดหลักเกณฑ์ในการบังคับโทษจำคุกว่าให้เริ่มนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา โดยมีข้อยกเว้นในกรณีที่ศาลจะมีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น การใช้ดุลพินิจให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่น จึงเป็นข้อยกเว้นไม่ให้เริ่มนับแต่วันมีคำพิพากษา โจทก์มีคำขอให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2554 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี และฟ้องโจทก์ก็บรรยายด้วยว่าระหว่างสอบสวนจำเลยถูกจำคุกอยู่ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรีที่เรือนจำจังหวัดอ่างทอง จำเลยเป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2554 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี เห็นได้ชัดเจนว่า โจทก์พิมพ์เลข พ.ศ. ของคดีที่ขอให้นับโทษต่อผิดพลาดถือเป็นเรื่องเล็กน้อย ตามสำเนาคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรีท้ายฎีกาโจทก์ ก็ระบุว่าเป็นคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี โดยจำเลยมิได้แก้ฎีกาโต้แย้งเป็นอย่างอื่น แม้จำเลยให้การรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2554 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี ที่มีเลข พ.ศ. คลาดเคลื่อน แต่จำเลยย่อมเข้าใจได้ว่าเป็นคดีหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี ศาลย่อมใช้ดุลพินิจให้เริ่มนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรีได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลชั้นต้นตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1264/2553 ให้ลงโทษฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 1 ปี 8 เดือน อันมิใช่ความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ขณะจำเลยอายุเกินกว่าสิบแปดปี และได้กระทำความผิดคดีนี้ภายในเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นโทษ ระหว่างสอบสวนจำเลยถูกจำคุกและเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2554 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี ในความผิดฐานลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ ซึ่งศาลลงโทษจำคุก 6 ปี 11 เดือน ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 92, 335, 336 ทวิ เพิ่มโทษและนับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2554 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1264/2553 ของศาลชั้นต้น และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2554ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) (7) (10) วรรคสอง ประกอบมาตรา 336 ทวิ, 80, 83 จำคุก 1 ปี 6 เดือน เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุก 1 ปี 12 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 12 เดือน นับโทษต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2554 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี
หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทองขอทราบผลคดีที่ขอนับโทษต่อ ศาลชั้นต้นมีหนังสือสอบถามไปยังศาลจังหวัดสิงห์บุรี ได้รับแจ้งว่าคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2554 จำเลยชื่อ นางสาวกาญจนา ส่วนจำเลยคดีนี้เป็นจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ศาลชั้นต้นจึงมีหนังสือถึงผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง ให้จำคุกจำเลยโดยไม่นับโทษต่อ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 9 เดือน คำขอเพิ่มโทษและนับโทษต่อให้ยก นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์เพียงข้อเดียวว่า ศาลนับโทษของจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรีได้หรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า โทษจำคุกให้เริ่มแต่วันมีคำพิพากษา เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่นนั้น เป็นบทกำหนดหลักเกณฑ์ในการบังคับโทษจำคุกว่าให้เริ่มนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา โดยมีข้อยกเว้นในกรณีที่ศาลจะมีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น การใช้ดุลพินิจให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่น จึงเป็นข้อยกเว้นไม่ให้เริ่มนับแต่วันมีคำพิพากษา แม้โจทก์มีคำขอให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2554 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี แต่ฟ้องโจทก์ก็บรรยายด้วยว่าระหว่างสอบสวนจำเลยถูกจำคุกอยู่ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรีที่เรือนจำจังหวัดอ่างทอง ขอศาลเบิกตัวจำเลยมาพิจารณาพิพากษาด้วย จำเลยนี้เป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2554 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี 11 เดือน ในความผิดฐานลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ เป็นกรณีที่เห็นได้ชัดเจนว่า โจทก์พิมพ์เลข พ.ศ. ของคดีที่ขอให้นับโทษต่อผิดพลาดไปอันถือเป็นเรื่องเล็กน้อย ทั้งได้ความตามสำเนาคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรีท้ายฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยที่ 2 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี โดยที่จำเลยมิได้แก้ฎีกาโต้แย้งเป็นอื่น ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามฎีกาโจทก์ว่าจำเลยเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยที่ 2 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี แม้จำเลยให้การรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2554 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี ที่มีเลข พ.ศ. คลาดเคลื่อน แต่จำเลยย่อมเข้าใจได้ว่าคดีที่ขอให้นับโทษต่อนั้นเป็นคดีที่กล่าวในฟ้องว่าจำเลยถูกจำคุกอยู่ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี เมื่อความปรากฏแก่ศาลแล้ว ศาลย่อมใช้ดุลพินิจให้เริ่มนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรีได้ การที่ศาลชั้นต้นมีหนังสือถึงผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทองให้จำคุกจำเลยโดยไม่นับโทษต่อนั้น มีผลเท่ากับแก้ไขคำพิพากษา ซึ่งเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยกคำขอในส่วนที่ขอให้นับโทษต่อมานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยที่ 2 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 191/2555 ของศาลจังหวัดสิงห์บุรี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share