แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยจ้างโจทก์สร้างตึกแถว โจทก์ส่งมอบล่าช้าแต่จำเลยรับมอบโดยไม่สงวนสิทธิปรับตามสัญญาจำเลยบังคับเรียกเบี้ยปรับไม่ได้ตาม มาตรา 381 วรรคท้าย
โจทก์โอนสิทธิการเช่าตึกแถวแก่จำเลย แต่โจทก์ใส่กุญแจประตูตึกแถวเสีย จำเลยเข้าครอบครองไม่ได้ ไม่เป็นละเมิด ตามสัญญาสิทธิที่จำเลยได้จากสัญญาคือสิทธิการเช่าตึกเท่านั้น
ย่อยาว
ช. เช่าที่ดินจากเจ้าของเพื่อสร้างตึกแถว ช. ให้โจทก์ก่อสร้างแทน จำเลยรับโอนสิทธิจากโจทก์โดยจ้างโจทก์สร้างตึกแถว โจทก์ก่อสร้างล่าช้า และโจทก์ใส่กุญแจตึกแถวไม่ให้จำเลยเข้าอยู่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์เท่าที่ติดค้างกันอยู่ 88,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้จำนวนเงินเป็น 83,000บาท จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าสัญญาท้ายฟ้องเป็นสัญญาที่จำเลยจ้างโจทก์ก่อสร้างตึกแถวหรือเป็นสัญญาที่โจทก์โอนสิทธิตึกแถวให้จำเลย ตามสัญญาท้ายฟ้องมีความสำคัญว่าโจทก์ต้องก่อสร้างตึกแถวตามแบบแปลนของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และเทศบาลนครกรุงเทพ จำเลยตกลงให้ค่าก่อสร้างห้องละ 185,000 บาท ชำระในวันทำสัญญา10,000 บาท ส่วนที่เหลือแบ่งชำระเป็น 4 งวด และโจทก์รับรองจะจัดการให้จำเลยได้เข้าทำสัญญากับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ภายในกำหนดตามสัญญา เห็นได้ชัดว่าจำเลยเป็นผู้ว่าจ้างโจทก์ให้ก่อสร้างตึกแถวตามสัญญาดังกล่าว ดังนั้นสัญญาท้ายฟ้องเป็นสัญญาที่จำเลยจ้างโจทก์ก่อสร้างตึกแถว
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปว่า โจทก์กระทำละเมิดต่อจำเลยหรือไม่จำเลยมีสิทธิเรียกค่าปรับที่โจทก์ก่อสร้างไม่เสร็จตามสัญญาเรียกค่าเสียหายที่โจทก์กระทำละเมิด และมีสิทธิเอาหนี้เงินที่จำเลยอ้างว่าได้ทดรองจ่ายไปหักกลบลบหนี้กับหนี้เงินที่จำเลยค้างชำระโจทก์อยู่ได้หรือไม่เพียงใด จำเลยอ้างว่าโจทก์ใส่กุญแจประตูตึกแถวเลขที่ 983/4 เป็นการละเมิดต่อจำเลย เห็นว่าสิทธิของจำเลยที่จะได้จากการทำสัญญาเป็นเพียงสิทธิการเช่าตึกพิพาท จำเลยยังมิได้เข้าครอบครองตึกพิพาท การกระทำของโจทก์ไม่เป็นที่ละเมิด จำเลยไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย ส่วนเรื่องโจทก์ก่อสร้างตึกแถวไม่เสร็จตามสัญญาปรากฏว่าโจทก์ก่อสร้างตึกแถวล่าช้า จำเลยก็มิได้เรียกร้องเอาค่าปรับ จำเลยยังติดต่อกับโจทก์ตามปกติและยินยอมชำระเงินค่าก่อสร้างเป็นงวด ๆ แก่โจทก์ตลอดมามิได้มีการทักท้วง ตอนโจทก์จำเลยเจรจาหักหนี้กัน ก็มิได้พูดกันถึงเรื่องก่อสร้างตึกแถวล่าช้า เมื่อจำเลยรับมอบตึกแถวจากโจทก์แล้ว ก็โอนสิทธิตึกแถวให้ผู้อื่นไป กรณีถือได้ว่าจำเลยในฐานะเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้จากโจทก์แล้ว โดยไม่มีการสงวนสิทธิที่จะปรับโจทก์สิทธิที่จำเลยจะเรียกค่าปรับจากโจทก์จึงระงับไปตามกฎหมายดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัย สำหรับเงินค่าธรรมเนียมการโอนตึกแถว เห็นว่าการโอนสิทธิและหน้าที่ระหว่างจำเลยกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไม่เกี่ยวกับโจทก์ เงินค่าประกันภัย เงินค่ากุญแจ เงินค่าประตูห้อง เห็นว่าเป็นหน้าที่จำเลยต้องจ่ายตามสัญญา จำเลยไม่มีสิทธิเอาหนี้เงินดังกล่าวหักกลบลบหนี้กับหนี้ที่จำเลยค้างชำระอยู่”
พิพากษายืน