แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พรึติการน์ที่ถือว่าเปนการป้องกัน ยั่วโทสะ และไม่มีเจตนาค่าไห้ตาย.
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าจำเลยค่าคนตายโดยเจตนา จำเลยรับว่าได้ทำร้ายผู้ตายจิงแต่ไม่มีเจตนาค่า
ข้อเท็ดจิงได้ความว่า จำเลยกับผู้ตายดื่มเหล้าหยู่ด้วยกัน ผู้ตายชวนจำเลยไปที่ถนน จำเลยไม่ไป ผู้ตายชักมีดขู่ทำท่าจะแทงจำเลย ๆ จึงตบหน้าผู้ตายแล้วจำเลยหนีไปที่ชาน ผู้ตายไล่แทงจำเลยถูกที่สลักซ้าย โลหิตไหลโซมตัว จำเลยเอาชะแลงตีผู้ตายทีหนึ่งที่โคนหน้าผากล้มผู้ตายหนีลงจากเรือน จำเลยถือชะแลงโดดตามไป สุนัขกัดผู้ตายล้มจำเลยตีผู้ตายด้วยชะแลงอีกสองทีและจะตีอีกแต่มีผู้ห้ามไว้จึงหยุด ผู้ตายหยู่ได้ ๖ วันก็ตาย
สาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายโดยป้องกันและถูกยั่วโทสะไม่มีเจตนาค่าไห้ตายตามมาตรา ๒๕๑,๕๕ และ ๕๙ คงจำคุก ๑ ปีแต่ไห้รอการลงอาญาไว้
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์เห็นว่า ที่จำเลยตบหน้าผู้ตายนั้นไม่เปนการป้องกัน ผู้ตายถูกตบหน้าจึงแทงจำเลย ๆ ตีผู้ตายด้วยชะแลงซึ่งเปนการวิวาท ตอนจำเลยตีผู้ตายข้างล่างไม่เปนการยั่วโทสะเพราะการวิวาทขาดตอนแล้วจำเลยตีผู้ตายถูกที่สำคันด้วยชะแลงหนักถึงสมองแตก ถือว่ามีเจตนาค่าไห้ตาย พิพากสาแก้เปนจำคุก ๗ ปี ๖ เดือน ตามมาตรา ๒๔๙,๕๙
จำเลยดีกา สาลดีกาเห็นว่า เหตุเกิดตอนบนเรือนนั้นจำเลยทำโดยป้องกันตัวพอสมควนแก่เหตุ ตอนทำร้ายผู้ตายข้างล่างเนื่องมาจากการที่ผู้ตายแทงจำเลย เปนการยั่วโทสะ จำเลยลงมาตีไนทันได จึงพิพากสาแก้ วางบทและโทสตามคำพิพากสาสาลชั้นต้น