คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2459/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยเพียงแต่โต้แย้งไว้ในคำให้การว่าเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข5(ซึ่งต่อมาในชั้นพิจารณาศาลหมายจ.6)เป็นเอกสารที่โจทก์ทำขึ้นฝ่ายเดียวจำเลยไม่ขอรับรองโดยจำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านว่าเอกสารดังกล่าวไม่มีต้นฉบับหรือว่าต้นฉบับนั้นปลอมทั้งฉบับหรือบางส่วนหรือสำเนานั้นไม่ถูกต้องกับต้นฉบับอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา125(เดิม)จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้คัดค้านเอกสารหมายจ.6ไว้แล้วศาลย่อมมีอำนาจรับฟังเอกสารดังกล่าวซึ่งเป็นสำเนาแทนต้นฉบับได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งตามมาตรา93

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ ได้ ทำ สัญญาประกัน ตัว นาย ตุ๋ย เผ่าละออ ซึ่ง เป็น จำเลย ใน คดีอาญา ของ ศาลอาญา ตาม ที่ จำเลย มอบหมาย และ จำเลยได้ ทำ สัญญาค้ำประกัน จำเลย ไว้ ต่อ โจทก์ ว่า หาก นาย ตุ๋ย หลบหนี หาย ไม่ไป ศาล ตาม กำหนด นัด ไม่ว่า จะ เป็น กรณี ใด ๆ ถ้า นายประกัน ต้อง ถูกศาล สั่ง ปรับ เป็น จำนวนเงิน เท่าใด ก็ ตาม ผู้ค้ำประกัน ขอรับ ผิด ชดใช้เงิน ค่าปรับ แทน นายประกัน ทั้งสิ้น และ ยินยอม ให้ เงิน อีก จำนวน120,000 บาท พร้อม ดอกเบี้ย ร้อยละ 15 ต่อ ปี เพื่อ เป็น ค่าเสียหายต่อมา นาย ตุ๋ย ได้ หลบหนี จน ศาลอาญา สั่ง ออกหมายจับ และ ปรับ โจทก์ เป็น เงิน 120,000 บาท เต็ม ตาม สัญญาประกัน โจทก์ ได้ มี หนังสือบอกกล่าว ให้ จำเลย ชำระ เงิน แต่ จำเลย เพิกเฉย ขอให้ บังคับ จำเลยชำระ เงิน 240,000 บาท แก่ โจทก์ พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย ร้อยละ 15 ต่อ ปีนับ ตั้งแต่ วันที่ 19 สิงหาคม 2534 ซึ่ง เป็น วันที่ ศาลอาญา ออกหมายจับ นาย ตุ๋ย จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ
จำเลย ให้การ ว่า จำเลย ไม่เคย มอบหมาย ให้ โจทก์ ประกันตัวนาย ตุ๋ย เผ่าละออ จำเลย ไม่เคย ทำ สัญญาค้ำประกัน นาย ตุ๋ย เอกสาร ท้ายฟ้อง หมายเลข 5 เป็น เอกสาร ที่ โจทก์ ทำ ขึ้น ฝ่ายเดียว จำเลยไม่ ขอรับ รอง และ ฟ้องโจทก์ เคลือบคลุม ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น วินิจฉัย ว่า เอกสาร หมาย จ. 6 เป็น สำเนา จึง รับฟังเป็น พยานหลักฐาน ตาม กฎหมาย ไม่ได้ และ นอกจาก เอกสาร ดังกล่าวโจทก์ ไม่มี พยานหลักฐาน อื่น ที่ จะ พิสูจน์ หรือ แสดง ว่า โจทก์ ได้เสียค่าปรับ ให้ แก่ ศาลอาญา แล้ว หรือ ศาลอาญา ได้ สั่ง ปรับ โจทก์ ตาม ฟ้อง จริงอัน จะ ทำให้ โจทก์ มีสิทธิ ตาม สัญญาค้ำประกัน เอกสาร หมาย จ. 3 ดังนั้นคดี ไม่จำต้อง วินิจฉัย ประเด็น อื่น ต่อไป พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ โจทก์ ว่าเอกสาร หมาย จ. 6 จะ รับฟัง เป็น พยานหลักฐาน ได้ หรือไม่ เห็นว่าจำเลย เพียงแต่ โต้แย้ง ไว้ ใน คำให้การ ว่า เอกสาร ท้ายฟ้อง หมายเลข 5(เอกสาร หมาย จ. 6) เป็น เอกสาร ที่ โจทก์ ทำ ขึ้น ฝ่ายเดียว จำเลย ไม่ ขอรับรอง จำเลย หา ได้ โต้แย้ง คัดค้าน ว่า เอกสาร ดังกล่าว ไม่มี ต้นฉบับหรือ ว่า ต้นฉบับ นั้น ปลอม ทั้ง ฉบับ หรือ บางส่วน หรือ สำเนา นั้น ไม่ถูกต้องกับ ต้นฉบับ อย่างหนึ่ง อย่างใด ดัง ที่ บัญญัติ ไว้ ตาม ประมวล กฎหมายวิธีพิจารณา ความ แพ่ง มาตรา 125 เดิม แต่อย่างใด ไม่ จึง ถือ ไม่ได้ว่า จำเลย ได้ คัดค้าน เอกสาร หมาย จ. 6 ไว้ แล้ว ศาล ย่อม มีอำนาจ รับฟังเอกสาร หมาย จ. 6 แทน ต้นฉบับ ได้ ไม่ต้องห้าม ตาม ประมวล กฎหมายวิธีพิจารณา ความ แพ่ง มาตรา 93 การ ที่ ศาลชั้นต้น และ ศาลอุทธรณ์ ไม่รับฟัง เอกสาร หมาย จ. 6 เป็น พยานหลักฐาน ใน คดี จึง ไม่ชอบ ศาลฎีกา ไม่เห็นพ้อง ด้วย ฎีกา ของ โจทก์ ฟังขึ้น เมื่อ ศาลชั้นต้น ยัง มิได้ วินิจฉัยใน ประเด็น ข้อพิพาท ว่า ฟ้องโจทก์ เคลือบคลุม หรือไม่ จำเลย ทำ สัญญาค้ำประกัน หรือไม่ และ จำเลย จะ ต้อง รับผิด ใน ค่าเสียหาย ต่อ โจทก์เพียงใด ศาลฎีกา จึง เห็นสมควร ย้อนสำนวน ไป ให้ ศาลชั้นต้น พิจารณาใน ประเด็น ข้อพิพาท ดังกล่าว แล้ว พิพากษา ใหม่ ตาม รูปคดี ”
พิพากษายก คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ และ คำพิพากษา ศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้น พิจารณา และ พิพากษา ใหม่ ตาม รูปคดี

Share