คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2459/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บริษัทลูกหนี้ถูก พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แต่ ยังเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ในระหว่างนั้น ย่อมต้อง มีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มิได้กำหนดมิให้ฟ้องเกี่ยวกับหนี้ที่เกิดขึ้นโดย ผลของกฎหมายหลังถูก พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดซึ่ง เป็นหนี้ที่ไม่สามารถขอรับชำระหนี้ได้ ภายในเวลาตาม ที่พระราชบัญญัติล้มละลายฯ กำหนดไว้ การเกิดหนี้ขึ้นโดย ผลของกฎหมายเช่นนี้เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องดำเนินการแทนลูกหนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการโต้แย้งสิทธิของโจทก์เกี่ยวกับภาษีรายนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องให้รับผิดได้ .

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า บริษัทลูกหนี้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินโแนดเลขที่ 725แขวงคลองสาม ประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ถูกฟ้องล้มละลายและศาลแพ่งมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 27กุมภาพันธ์ 2530บริษัทลูกหนี้ได้ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. 2531 เจ้าพนักงานประเมินทำการประเมินเรียกเก็บและแจ้งการประเมินไปยังจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์บริษัทลูกหนี้ จำเลยเพิกเฉย ขอให้จำเลยชำระเงินค่าภาษีและเงินเพิ่มพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 24 ต่อปีของต้นเงินค่าภาษีที่ค้างชำระนับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า หนี้ค่าภาษีดังกล่าวเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดบริษัทลูกหนี้ โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ค่าภาษีดังกล่าวตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 21 ประกอบด้วยมาตรา 91 และ 94
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ค่าภาษีบำรุงท้องที่และและเงินเพิ่มพร้อมด้วยดอกเบี้ยตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า หนี้ค่าภาษีรายนี้เป็นค่าภาษีบำรุงท้องที่ปี พ.ศ. 2531 การประเมินภาษีของเจ้าพนักงานประเมินชอบด้วยกฎหมาย บริษัทเครดิตฟองซิเอร์เฉลิมโลกจำกัด ผู้มีหน้าที่เสียภาษีได้ถูกฟ้องล้มละลาย ศาลได้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2530 ตามคดีหมายเลขแดงที่ล.62/2530 ของศาลแพ่งและได้ประกาศหนังสือพิมพ์เมื่อวันที่ 24 มีนาคม2530 ประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2530 โจทก์ฟ้องหลังจากศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์บริษัทเครดิตฟองซิเอร์เฉลิมโลกจำกัด เด็ดขาดแล้ว ข้อต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยมีว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดชำระค่าภาษีหรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 มาตรา 7 กำหนดให้ผู้เป็นเจ้าของที่ดินในวันที่ 1 มกราคม ของปีใดมีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปีนั้น ฉะนั้น ผู้เป็นเจ้าของที่ดินจะต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่ทุกปี สำหรับภาษีที่พิพาทรายนี้เป็นหนี้ค่าภาษีที่ได้เกิดขึ้นภายหลังที่บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ จำกัด ถูกพิทักษ์ทรพัย์แล้ว การที่โจทก์จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในเวลาตามที่พระราชบัญญัติล้มละลายกำหนดไว้ย่อมทำไม่ได้ แต่การที่บริษัทเครดิตฟองซิเอร์เฉลิมโลก จำกัด ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วเมื่อยังเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ในระหว่างนั้น ย่อมจะต้องมีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่เพียงแต่การถูกพิทักษ์ทรัพย์ ย่อมไม่สามารถจัดการทรัพย์สินโดยตนเองได้ จะต้องดำเนินการโดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 22ในพระราชบัญญัติดังกล่าว มิได้กำหนดมิให้ฟ้องเกี่ยวกับหนี้ที่เกิดขึ้นโดยผลของกฎหมายหลังจากถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วซึ่งเป็นหนี้ที่ไม่สามารถขอรับชำระหนี้ได้ การเกิดหนี้ขึ้นโดยผลของกฎหมายเช่นนี้เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องดำเนินการแทนบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เฉลิมโลก จำกัด เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการโต้แย้งสิทธิของโจทก์เกี่ยวกับภาษีรายนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องให้รับผิดได้ ส่วนโจทก์จะได้รับชำระหนี้อย่างไร เป็นเรื่องของชั้นบังคับคดี ไม่ใช่เป็นกรณีที่จะนำมาอ้างว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง คำพิพากษาศาลภาษีอากรกลางชอบแล้ว อุทธรณ์ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share