แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยนำแผ่นป้ายทะเบียนรถคันอื่นไปติดไว้ที่รถจักรยานยนต์คันที่จำเลยครอบครอง และใช้ขับขี่แทนแผ่นป้ายทะเบียนรถเดิม อันมีหมายเลขทะเบียนไม่ตรงกัน มีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268, 83 จำคุก 1 ปี ริบแผ่นป้ายทะเบียนของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงได้ความตามที่โจทก์นำสืบว่ารถจักรยานยนต์ที่ยึดมาจากบ้านจำเลยเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. สยามยนต์ที่ให้นายบุญชัย อภิธรรมวงศ์ เช่าซื้อไปและเป็นรถที่มีหมายเลขทะเบียนที่แท้จริงคือ ก.ท.ท. – 9282 นายบุญชัย อภิธรรมวงศ์ ผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าซื้อห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. สยามยนต์ ได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้วติดตามเอารถคืนจากนายบุญชัย อภิธรรมวงศ์ ไม่ได้ ส่วนหมายเลขทะเบียน 7 ข – 9993 เป็นของรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งที่นายบุญชัย บุญรัตนประภา เช่าซื้อและรับโอนมาจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. สยามยนต์แล้ว และได้ความจากคำเบิกความของนายบุญชัยบุญรัตนประภา พยานโจทก์ว่า แผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 7 ข -9993 ของกลางเป็นแผ่นป้ายที่ติดมากับรถที่เช่าซื้อซึ่งไม่ใช่แผ่นป้ายที่กองทะเบียนกรมตำรวจให้มา เมื่อพยานโจทก์ได้แผ่นป้ายของกองทะเบียนกรมตำรวจมาแล้ว จึงได้เปลี่ยนแผ่นป้ายใหม่ จำเลยจึงได้ขอแผ่นป้ายดังกล่าวนั้นไป และได้ความจากคำเบิกความของนายบุญชัย อภิธรรมวงศ์ พยานโจทก์ว่าได้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน ก.ท.ท. – 9282 มาจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. สยามยนต์เมื่อเดือนกันยายน2518 ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อตลอดมาจนกระทั่งเดือนกรกฎาคม 2519 ไม่มีเงินทอนจึงตกลงให้จำเลยผ่อนชำระแทนและมอบรถคันดังกล่าวให้จำเลยไป ซึ่งตรงกับที่จำเลยให้การไว้ในชั้นสอบสวนตามเอกสารหมาย จ.11 ศาลฎีกาจึงเชื่อว่าจำเลยได้รับรถจักรยานยนต์คันที่ถูกยึดมานั้นมาจากนายบุญชัย อภิธรรมวงศ์ ซึ่งเช่าซื้อมาจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. สยามยนต์ แล้วผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าซื้อ เมื่อจำเลยรับรถคันดังกล่าวมาแล้ว จำเลยได้ขอแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 7 ข – 9993 ของกลางจากนายบุญชัย บุญรัตนประภา มาใช้กับรถคันดังกล่าวเพื่อปิดบังไม่ให้ผู้ให้เช่าซื้อมายึดเอารถคืนไป การที่จำเลยนำแผ่นป้ายทะเบียนรถคันอื่นไปติดไว้ที่รถจักรยานยนต์คันที่จำเลยครอบครองและใช้ขับขี่แทนแผ่นป้ายทะเบียนรถเดิม อันมีหมายเลขทะเบียนไม่ตรงกันในประการหนึ่งที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ย่อมเป็นความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม ที่จำเลยฎีกาว่า หากศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำเลยก็ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษให้นั้น เห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำคุกจำเลยเหมาะสมกับรูปคดีแล้ว และกรณีไม่มีเหตุอันสมควรที่จะรอการลงโทษได้ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยฐานใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268, 83 นั้น ยังคลาดเคลื่อนอยู่เพราะจำเลยไม่ได้ร่วมกระทำความผิดกับบุคคลอื่นและมาตรา 268 ได้บัญญัติถึงการใช้เอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดมาตรา 264, มาตรา 265, มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ว่าต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ จึงต้อง ระบุถึงมาตราอันเกิดจากการกระทำผิดดังกล่าวด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 265 ให้ลงโทษจำเลยตามบทบัญญัติดังกล่าวนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”