แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ โดยบรรยายถึงข้อความที่จำเลยแจ้งความและกล่าวว่า ซึ่งความจริงมิใช่เช่นนั้น แต่มิได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไร จำเลยย่อมไม่อาจเข้าใจได้ดีว่าข้อความที่แจ้งเป็นความเท็จ เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)
เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แล้ว แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจแจ้งข้อความว่า นางรูปราณีภริยาของจำเลยถูกมีดหล่นจากตู้เย็นตกใส่หน้าท้อง ได้รับอันตรายแก่กายเป็นบาดแผล ต่อมาได้ถึงแก่ความตายซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา ต่อร้อยตำรวจโทสวัสดิ์พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองเชียงใหม่ซึ่งความจริงมิใช่เช่นนั้น การกระทำของจำเลยทำให้ร้อยตำรวจโทสวัสดิ์ได้รับความเสียหาย โดยสอบสวนคดีไปเป็นคดีอุบัติเหตุ มิใช่คดีฆาตกรรมขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ เห็นว่าการที่จะเข้าใจได้ดีว่าข้อความใดเป็นเท็จ จะต้องรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยบังอาจแจ้งข้อความว่า นางรูปราณีภริยาของจำเลยถูกมีดหล่นจากตู้เย็นตกใส่หน้าท้องได้รับอันตรายแก่กายเป็นบาดแผล ต่อมาได้ถึงแก่ความตายซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา ต่อร้อยตำรวจโทสวัสดิ์พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเชียงใหม่ซึ่งความจริงมิใช่เช่นนั้น ดังนี้ มิได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไร จำเลยย่อมไม่อาจเข้าใจได้ดีว่าข้อความที่แจ้งเป็นความเท็จ แม้โจทก์บรรยายฟ้องต่อไปว่า การกระทำของจำเลยทำให้ร้อยตำรวจโทษสวัสดิ์สอบสวนไปเป็นคดีอุบัติเหตุมิใช่ฆาตกรรม ก็เป็นการกล่าวถึงประเภทคดีของพนักงานสอบสวนหาใช้ยืนยันว่าความจริงเป็นเรื่องฆาตกรรมไม่ ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
พิพากษายืน