คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทก์ตั้งรูปขอแบ่งที่นามฤดก และได้กล่าวถึงการที่จำเลยยินยอมแบ่งที่นารายพิพาทให้โจทก์ครอบครองเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ เมื่อปรากฎว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความ ฟ้องร้องในทางขอแบ่งมฤดก แต่ประเด็นหลังฟังได้ว่าจำเลยได้ยอมแบ่งที่นารายพิพาทซึ่งเป็นที่นามือเปล่าให้โจทก์เป็นการสละสิทธิครอบครองให้แก่โจทก์ โจทก์ก็ย่อมได้สิทธิครอบครองตามมาตรา 1378 ป.ม.แพ่ง ฯ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นบุตรร่วมบิดามารดาเดียวกัน บิดามารดาได้ถึงแก่กรรมแล้ว ที่นาตำบลน้ำปั้วจึงตกเป็นมฤดกแก่โจทก์จำเลย และได้ใช้อำนาจปกครองร่วมกันมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๘ โจทก์จำเลยได้รังวัดแบ่งมฤดกที่นากัน โจทก์ได้ทางใต้ จำเลยได้ทางเหนือ โจทก์ได้ครอบครองส่วนของโจทก์โดยเด็ดขาดแล้ว บัดนี้จำเลยได้ไปร้องต่ออำเภออ้างว่าจำเลยเป็นเจ้าของ ขอโอนให้บุตรจำเลย จึงขอให้ศาลแสดงว่าโจทก์มีกรรมสิทธิในที่พิพาท และห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้อง จำเลยให้การรับว่า โจทก์เป็นพี่ร่วมบิดามารดากันจริง ตั้งแต่บิดาตายจำเลยได้ปกครองที่นาตามฟ้องมาคนเดียว ๔๐ ปีเศษ โจทก์ไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่เคยตกลงแบ่งที่นากัน กับตัดฟ้องว่าคดีขาดอายุความแล้ว
ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์จำเลยได้ปกครองที่นาพิพาทร่วมกัน คดีไม่ขาดอายุความและจำเลยได้แบ่งที่นาพิพาทให้โจทก์แล้ว โจทก์จึงมีกรรมสิทธิในที่นาแปลงนี้ได้ พิพากษาให้ขับไล่จำเลย ห้ามไม่ให้จำเลยขัดขวาง และเพิกถอนสัญญาโอนที่นามฤดกฉะเพาะที่นาแปลงใต้
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า คดีขาดอายุความแล้ว จำเลยได้กรรมสิทธิในที่นานั้น และการแบ่งนานั้นเป็นเรื่องปราณีประนอมยอมความ มิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์หาได้ตั้งรูปฉะเพาะมฤดกไม่ แต่กล่าวถึงการที่จำเลยยินยอมแบ่งนารายพิพาทให้โจทก์ครอบครองเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ด้วย ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ จึงเป็นประเด็นต้องพิจารณาถึงด้วย
ประเด็นเรื่องอายุความการรับมฤดกนั้น ศาลฎีกาฟังว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความแล้ว แต่ในประเด็นหลังคดีฟังได้ว่า ที่พิพาทเป็นที่นามือเปล่า จำเลยได้ยอมแบ่งนาให้แก่โจทก์ ได้มีการปักหลักเขตต์ คดีจึงเข้าลักษณะจำเลยยอมสละสิทธิครอบครองให้แก่โจทก์แล้ว โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองนั้นตาม ป.ม.แพ่ง มาตรา ๑๓๗๘
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามศาลชั้นต้น.

Share