คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2447/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ในสัญญาเช่าซื้อเครื่องปรับอากาศมิได้ระบุว่าผู้ขายมีหน้าที่ต้องติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้แก่ผู้ซื้อด้วย การที่ผู้ซื้อจะนำสืบพยานบุคคลและพยานหลักฐานอื่นอธิบายให้เห็นว่าข้อตกลงในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ตามสัญญาเช่าซื้อได้รวมถึงการที่ผู้ขายจะต้องทำการติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้ด้วย หาใช่เป็นการนำสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมจากสัญญาเช่าซื้ออันเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้ทำสัญญาเช่าซื้อเครื่องปรับอากาศไปจากโจทก์ในราคา ๕,๑๙๕,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน โดยกำหนดชำระเป็นงวด ๆ ต่อมาจำเลยผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อรวมเป็นเงิน ๑,๖๒๐,๐๐๐ บาท นอกจากนั้นโจทก์ได้ทดรองจ่ายค่าวัสดุปุปกรณ์ ค่าจ้างแรงงานในการติดตั้งจัดทำระบบถ่ายเทอากาศอีกรวม ๘๘,๓๑๖ บาท และจำเลยยังค้างชำระค่าเครื่องปรับอากาศที่จำเลยซื้อเพิ่มเติมอีกเป็นเงิน ๒๓๕,๐๐๐ บาท จึงขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ยังติดตั้งเครื่องปรับอากาศไม่เรียบร้อยและไม่ถูกต้องตามสัญญา โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิรับเงิน ส่วนที่โจทก์อ้างว่าได้ทดรองจ่ายค่าวัสดุอุปกรณ์ค่าแรงงานในการติดตั้งจัดทำสำหรับระบบถ่ายเทอากาศด้วยนั้น รายจ่ายดังกล่าวเป็นรายการจ่ายอันเหมาอยู่ในยอดเงินค่าเช่าซื้อตามสัญญา โจทก์มีหน้าที่ต้องทำโดยค่าใช้จ่ายของโจทก์เอง และสำหรับเครื่องปรับอากาศที่จำเลยสั่งซื้อเพิ่มเติมนั้นโจทก์ส่งเครื่องไม่ตรงตามใบเสนอราคา จำเลยจึงงดไม่ชำระราคาอีกครึ่งหนึ่ง และเนื่องจากโจทก์ติดตั้งเครื่องปรับอากาศไม่ถูกต้องตามสัญญา จำเลยได้รับความเสียหายเป็นเงิน ๒,๑๐๕,๐๐๐ บาท จึงขอให้โจทก์ชำระค่าเสียหายแก่จำเลยด้วย
โจทก์ให้การฟ้องแย้งว่า โจทก์ได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศตามสัญญาเช่าซื้อถูกต้องเรียบร้อยตามเงื่อนไขทุกประการ ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ติดตั้งเครื่องปรับอากาศไม่ถูกต้องตามสัญญาจำเลยชอบที่จะยึดหน่วงราคาที่ยังไม่ได้ชำระไว้ได้ การติดตั้งพัดลมดูดอากาศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้เครื่องปรับอากาศตามสัญญาเช่าซื้อ เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องติดตั้งให้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลย แต่สำหรับเครื่องปรับอากาศที่จำเลยซื้อเพิ่มเติมนั้นโจทก์ส่งมอบให้ตรงตามใบเสนอราคาแล้วจำเลยต้องชำระเงินที่ยังไม่ได้ชำระอีกครึ่งหนึ่ง และจำเลยไม่สามารถนำสืบถึงความเสียหายที่ได้รับตามฟ้องแย้งได้ พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระค่าซื้อเครื่องปรับอากาศที่ยังค้างชำระ คำขอของโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยที่ ๑ นอกจากนี้ให้ยก ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๒ และให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยที่ ๑
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่ให้จำเลยที่ ๑ เช่าซื้อเรียบร้อยตามสัญญาแล้ว การติดตั้งพัดลมดูดอากาศเป็นรายการนอกเหนือจากสัญญาเช่าซื้อ จำเลยจะนำสืบพยานบุคคลว่ายังมีข้อตกลงที่โจทก์จะต้องติดตั้งพัดลมดูดอากาศเพิ่มเติมจากสัญญาเช่าซื้อด้วยเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๙๔ ต้องถือว่าการติดตั้งพัดลมดูดอากาศเป็นเรื่องนอกเหนือสัญญาเช่าซื้อพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันชำระค่าเช่าซื้อเครื่องปรับอากาศที่ค้าง และให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินค่าติดตั้งพัดลมดูดอากาศด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์ติดตั้งเครื่องปรับอากาศถูกต้องเรียบร้อยตามสัญญาเช่าซื้อ การติดตั้งพัดลมดูดอากาศเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศตามสัญญเช่าซื้อ โจทก์ส่งเครื่องปรับอากาศที่จำเลยซื้อเพิ่มไม่ตรงตามใบเสนอราคา จำเลยจึงยังไม่ต้องรับผิดตามฟ้องแต่จำเลยนำสืบถึงความเสียหายที่ได้รับตามฟ้องแย้งไม่ได้ และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “แม้จะปรากฏว่าในสัญญาเช่าซื้อมิได้ระบุว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้แก่จำเลยด้วย การที่จำเลยจะนำสืบพยานบุคคลและพยานหลักฐานอื่นอธิบายให้เห็นว่าข้อตกลงในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศตามสัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์จำเลยได้รวมถึงการที่โจทก์จะต้องทำการติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้ด้วย ก็หาใช่เป็นการนำสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมจากสัญญาเช่าซื้ออันเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๙๔ ไม่ จำเลยจึงมีสิทธินำสืบได้”
พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์เสียทั้งสิ้น

Share