คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2438/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในคดีแพ่ง เป็นเพียงพยานความเห็นมิใช่ประจักษ์พยาน การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยแล้วรับฟังว่า หนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.5ไม่ใช่เอกสารปลอมโดยวินิจฉัยไว้ด้วยว่า ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ว่าลายมือชื่อผู้มอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.5 เปรียบเทียบกับลายมือชื่อของโจทก์แล้วไม่ใช่ลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกันนั้น เป็นเพียงหลักฐานที่จะรับฟังประกอบดุลพินิจในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานเท่านั้น มิใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นอย่างไร ศาลต้องรับฟังตามนั้นเสนอไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน โฉนดเลขที่ 28745 เนื้อที่ 40 ตารางวา พร้อมบ้านตึกชั้นเดียวเลขที่ 7/114 จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันทำหนังสือมอบอำนาจและลงลายมือชื่อโจทก์ปลอมขายที่ดินพร้อมบ้านให้แก่จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 3 ขายที่ดินพร้อมบ้านต่อไปยังจำเลยที่ 4 ถึงที่ 6ตามลำดับ ขอให้พิพากษาให้นิติกรรมซื้อขายที่ดินโฉนดเลขที่ 28745 พร้อมบ้านฉบับลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2533, วันที่ 23 พฤศจิกายน 2533, วันที่ 31 มกราคม 2534 และวันที่27 พฤษภาคม 2534 เป็นโมฆะ และสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขามีนบุรี เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายดังกล่าวให้จำเลยที่ 3 ถึงที่ 6 จัดการถอนชื่อของตนจากที่ดินโฉนดเลขที่ 28745 และใส่ชื่อของโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ดังเดิมหากจำเลยที่ 3 ถึงที่ 6 ไม่จัดการก็ให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 3 ถึงที่ 6 โดยจำเลยที่ 3 ถึงที่ 6เป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมการถอนชื่อแต่เพียงฝ่ายเดียว
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 3 ถึงที่ 6 ให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยที่ 3 เป็นผู้ซื้อและจดทะเบียนรับโอนที่ดินพร้อมบ้านพิพาทโดยอาศัยหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.5 ซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้รับมอบอำนาจ และจำเลยที่ 2 เป็นพยานในหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวภายหลังจำเลยที่ 4 ที่ 5 และที่ 6 ต่างเป็นผู้ซื้อและจดทะเบียนรับโอนที่ดินพร้อมบ้านพิพาทสืบต่อมาเป็นทอด ๆ ตามลำดับ
มีปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.5 เป็นเอกสารปลอมหรือไม่ ในข้อนี้โจทก์ฎีกาอ้างว่าผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อผู้มอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.5 เปรียบเทียบกับลายมือชื่อของโจทก์แล้วมีความเห็นว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน หนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.5 จึงเป็นเอกสารปลอมนั้นเห็นว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยแล้วรับฟังว่าหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.5 ไม่ใช่เอกสารปลอมโดยวินิจฉัยไว้ด้วยว่า ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ว่า ลายมือชื่อผู้มอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.5 เปรียบเทียบกับลายมือชื่อของโจทก์แล้ว ไม่ใช่ลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน คงเป็นเพียงหลักฐานที่จะรับฟังประกอบดุลพินิจในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานเท่านั้น มิใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นอย่างไร ศาลต้องรับฟังตามนั้นเสมอไป เมื่อพยานหลักฐานอื่นของฝ่ายจำเลยมีน้ำหนักรับฟังได้ยิ่งกว่าความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และเชื่อว่าลายมือชื่อดังกล่าวเป็นลายมือชื่อของโจทก์และโจทก์รู้เห็นการขายที่ดินและบ้านพิพาทโดยตลอด ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่าหากได้พิจารณาพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายแล้วพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลยมีน้ำหนักดีกว่าพยานหลักฐานของโจทก์ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.5 จริง ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นเพียงพยานความเห็น มิใช่ประจักษ์พยานไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานฝ่ายจำเลยได้
พิพากษายืน

Share