คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การโอนสิทธิครอบครองเนื่องจากมีการซื้อขายที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วนั้นย่อมทำได้โดยสมบูรณ์ ด้วยการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 4ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ข้อ 2 ซึ่งเป็นการกระทำตามแบบของกฎหมายประการ หนึ่งกับกระทำการโอนโดยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377,1378 อีกประการหนึ่งซึ่งไม่ต้องมีแบบการที่โจทก์ขายที่พิพาทอันเป็นที่มีน.ส.3ให้จำเลยโดยทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเองและจำเลยได้เข้าครอบครองยึดถือที่พิพาทหลังจากทำการซื้อจาก โจทก์แล้วโดยปลูกบ้าน ปลูกต้นไม้ และสร้างยุ้งข้าวจำเลยจึงได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยประการหลัง หาจำต้องทำตามแบบของนิติกรรมไม่ และกรณีเช่นนี้ไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 115

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์กู้เงินจำเลยแล้วมอบที่ดินซึ่งมี น.ส.3 ของโจทก์ให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์นำเงินไปชำระหนี้และขอรับที่ดินคืนจำเลยไม่ยอมมอบที่ดินคืน ขอให้บังคับจำเลยรับชำระหนี้ และส่งมอบที่ดินคืนให้โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า โจทก์ตกลงขายที่ดินดังกล่าวให้จำเลยแล้วโดยได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเอง จำเลยซื้อที่พิพาทแล้วก็ได้ครอบครองทำประโยชน์ตลอดมา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ขายที่พิพาทให้จำเลยจริง โดยทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเอง จำเลยซื้อแล้วได้เข้าครอบครองทำประโยชน์โดยปลูกบ้านปลูกต้นไม้ และสร้างยุ้งข้าว ตลอดมา
วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายประการสุดท้ายว่าที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าซึ่งมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้ว การซื้อขายจึงต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 4 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ข้อ 2 ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษนอกเหนือจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378 ซึ่งบัญญัติว่า การโอนไปซึ่งการครอบครองทำได้โดยการส่งมอบทรัพย์สินที่ครอบครอง ดังนั้นเมื่อข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฏว่าไม่ได้มีการจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 115 ข้อนี้เห็นว่าการโอนสิทธิครอบครองเนื่องจากมีการซื้อขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วนั้น ย่อมทำได้โดยสมบูรณ์ด้วยการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 4 ทวิประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ข้อ 2 ซึ่งเป็นการกระทำตามแบบของกฎหมายนั้นประการหนึ่ง กับการกระทำการโอนโดยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377, 1378 อีกประการหนึ่ง ซึ่งไม่ต้องมีแบบ ดังนั้นเมื่อข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฏว่าจำเลยได้เข้าครอบครองยึดถือที่พิพาทหลังจากทำการซื้อจากโจทก์แล้ว จำเลยจึงได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยประการหลัง หาจำต้องทำตามแบบของนิติกรรมดังโจทก์ฎีกาไม่ และดังนั้นกรณีนี้จึงไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 115 ดังที่โจทก์ฎีกา จำเลยจึงได้สิทธิครอบครองที่พิพาท โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกที่พิพาทคืนจากจำเลย ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความในชั้นฎีกา 400 บาทแทนจำเลย

Share