แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ที่พิพาทอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโจทก์ไม่มีสิทธิยึดถือหรือครอบครองที่ดินตาม มาตรา 14 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507และไม่มีอำนาจนำไปให้จำเลยเช่าโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาท ให้จำเลยชำระค่าเช่า 500 บาท และค่าเสียหายเดือนละ 50 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้จำเลยให้การว่าที่พิพาทอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โจทก์เบิกความรับว่าเป็นความจริง ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อที่พิพาทอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โจทก์จึงไม่มีสิทธิยึดถือครอบครองที่ดินตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และไม่มีอำนาจนำไปให้จำเลยเช่า โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมสามศาลแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความให้1,300 บาท”