คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานศาลได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 2หุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ที่สำนักงานแห่งใหญ่ของจำเลยที่ 1ซึ่งระบุไว้ในหนังสือรับรองนายทะเบียนสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทถือว่าเจ้าพนักงานศาลได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 2ที่สำนักทำการงานของจำเลยที่ 2 โดยชอบแล้ว การที่จำเลยที่ 2 มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด ทั้งมิได้แจ้งเหตุขัดข้องต่อศาลภายในกำหนดเวลา ทั้งทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วยังขาดนัดพิจารณา ฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ไม่มีเหตุอนุญาตให้พิจารณาใหม่ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค 2 ฉบับ รวมเป็นเงิน 605,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยจากจำเลยทั้งสี่ จำเลยที่ 1ที่ 2 และที่ 4 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่แพ้คดีในประเด็นที่พิพาท
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2530 ขอให้มีการพิจารณาใหม่ อ้างว่าจำเลยที่ 2 มิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จำเลยที่ 2 เพิ่งทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 25พฤษภาคม 2530 คดีของจำเลยที่ 2 มีทางชนะเพราะโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายและเช็คที่โจทก์นำมาฟ้องไม่มีมูลหนี้
โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านว่า โจทก์ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 2 ตามภูมิลำเนาของห้างหุ้นส่วนจำกัดโจริสุเมทอลที่จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ซึ่งยังไม่มีการจดทะเบียนเลิกห้างแต่อย่างใด การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 2 ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าโจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัดโดยจำเลยที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการกับพวกรวม 4 คน ให้รับผิดเรื่องตั๋วเงิน ตามเอกสารหมาย จ.1 หนังสือรับรองนายทะเบียนสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท ข้อ 5. ระบุว่า สำนักงานแห่งใหญ่ของจำเลยที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 1861/1 ถนนริมทางรถไฟสายปากน้ำ แขวงคลองตันเขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เจ้าพนักงานศาลได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องและหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยที่ 2 ตามที่อยู่ในเอกสารหมาย จ.1 โดยวิธีปิดหมาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 2ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาและพิพากษาให้จำเลยที่ 2ร่วมกับจำเลยอื่นชำระหนี้ให้แก่โจทก์ มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยที่ 2 ว่ามีเหตุที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาใหม่หรือไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 74 บัญญัติว่า”การส่งคำคู่ความหรือเอกสารอื่นใดโดยเจ้าพนักงานศาลให้ปฏิบัติดังนี้…(2) ให้ส่งแก่คู่ความหรือบุคคลซึ่งระบุไว้ในคำคู่ความหรือเอกสาร ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของคู่ความหรือบุคคลนั้น…” โดยที่จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 1 ตามเอกสารหมาย จ.1 จึงเป็นสำนักทำการงานของจำเลยที่ 2 เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าเจ้าพนักงานศาลได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 2 ตามที่อยู่ในเอกสารหมาย จ.1ซึ่งเป็นสำนักทำการงานของจำเลยที่ 2 จึงชอบแล้ว การที่จำเลยที่ 2มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด ทั้งมิได้แจ้งเหตุขัดข้องต่อศาลภายในกำหนดเวลาเช่นว่านั้นทั้งทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วยังขาดนัดพิจารณา ฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ไม่มีเหตุจะอนุญาตให้พิจารณาใหม่ได้
พิพากษายืน

Share