แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 73 ทวิจะมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้าหมื่นบาทก็ตาม ถ้าศาลเห็นสมควรจะลงแต่โทษจำคุกสถานเดียวโดยไม่ลงโทษปรับด้วยก็ได้ดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 20
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือจำเลยบังอาจตั้งโรงงานแปรรูปไม้ ทำการแปรรูปไม้มีไม้หวงห้ามประเภท ก.ไว้ในความครอบครอง มีไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าซึ่งซี่ลูกกรงไม้และเสาหัวบันไดไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ฯลฯ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 53 ตรี, 73, 73 ทวิ, 74, 74 ทวิ, 74 จัตวา พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 19, 28 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522 มาตรา 7, 8, 9 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2514) ข้อ 2 ให้เรียงกระทงลงโทษฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ จำคุก 2 ปี และปรับ 10,000 บาท ฐานทำการแปรรูปไม้ จำคุก 2 ปี และปรับ 10,000 บาท ฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครอง จำคุก 1 ปี และปรับ 5,000 บาท ฐานมีสิ่งประดิษฐ์เกินกว่าที่รัฐมนตรีกำหนด จำคุก 6 เดือนและปรับ 5,000 บาท รวมจำคุก 5 ปี 6 เดือน และปรับ 30,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา อันเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี 9 เดือน และปรับ15,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับ จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ริบของกลางฯ
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำคุกสถานเดียว
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำเลยสูงเกินไปพิพากษาแก้เป็นว่า ฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ให้ลงโทษจำคุก 1 ปีฐานแปรรูปไม้จำคุก 6 เดือน ฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองจำคุก 6 เดือน ฐานมีเครื่องใช้ทำด้วยไม้ไว้เพื่อการค้าจำคุก 6 เดือนรวมจำคุก 2 ปี 6 เดือน ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 3 เดือน ยกคำขอจ่ายสินบนนำจับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีสิ่งประดิษฐ์หรือเครื่องใช้ทำด้วยไม้หวงห้ามเพื่อการค้ามีปริมาณเกินกว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดเป็นจำคุกและปรับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 73 ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522 มาตรา 8 มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้าหมื่นบาท ถ้าศาลเห็นสมควรจะลงแต่โทษจำคุกสถานเดียวโดยไม่ลงโทษปรับด้วยก็ได้ ดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 20 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยสถานเดียวโดยความผิดฐานมีสิ่งประดิษฐ์หรือเครื่องใช้ทำด้วยไม้หวงห้ามเพื่อการค้า มีปริมาณเกินกว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดตามบทกฎหมายดังกล่าวจึงชอบแล้ว
พิพากษายืน