คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีโจทก์เอาประกันชีวิตไว้กับจำเลยโดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิต มีเงื่อนไขว่า ถ้าสามีโจทก์ถึงแก่ความตายโดยอุบัติเหตุจำเลยจะใช้เงินเป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนที่เอาประกัน ระหว่างอายุสัญญา สามีโจทก์เป็นลมล้มลงศีรษะฟาดพื้นสมองได้รับความกระทบกระเทือนถึงแก่ความตายดังนี้เห็นได้ว่าที่ผู้ตายเป็นลมหกล้มเป็นเรื่องเกิดขึ้นโดยบังเอิญปราศจากเจตนาและความคาดหมายของผู้ตาย จึงถือได้ว่าผู้ตายตายเพราะอุบัติเหตุตามกรมธรรม์ประกันชีวิต จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์สองเท่าตามสัญญา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อ พ.ศ. 2518 นายมานิตย์ โชติภิวงศ์ สามีโจทก์ได้เอาประกันชีวิตและอุบัติเหตุกับจำเลยเป็นเงิน 200,000 บาท โดยให้โจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ ต่อมาพ.ศ. 2520 นายมานิตย์ประสบอุบัติเหตุลื่นล้มศีรษะฟาดพื้นสมองกระทบกระเทือนช้ำบวมถึงแก่ความตาย จำเลยจะต้องจ่ายค่าประกันชีวิต 200,000 บาทและค่าประกันอุบัติเหตุอีก 200,000 บาท แต่จำเลยบิดพลิ้วขอให้ศาลบังคับ

จำเลยให้การว่านายมานิตย์ผู้ตายแถลงข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จเกี่ยวกับสุขภาพสัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ จำเลยได้บอกล้างแล้ว ผู้ตายมิได้ตายโดยอุบัติเหตุผู้ตายขาดส่งเบี้ยประกันกรมธรรม์ขาดผลบังคับ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ 400,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียม

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายมานิตย์สามีโจทก์ได้เอาประกันชีวิตไว้กับบริษัทจำเลยเป็นทุนประกัน 200,000 บาท โดยให้โจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ ถ้านายมานิตย์ถึงแก่กรรมโดยอุบัติเหตุ จำเลยจะจ่ายเงินประกันชีวิตให้ 400,000 บาท นายมานิตย์ล้มฟาดพื้นสมองได้รับความกระทบกระเทือนและถึงแก่กรรม จำเลยฎีกาว่านายมานิตย์ขาดส่งเบี้ยประกันชีวิตปีที่ 3 แต่พยานหลักฐานฟังได้ว่านายมานิตย์สามีโจทก์ไม่เคยขาดส่งเบี้ยประกัน และไม่เคยขอต่ออายุกรมธรรม์ประกันชีวิตกับจำเลยเลย

สำหรับปัญหาว่านายมานิตย์ถึงแก่กรรมโดยอุบัติเหตุหรือไม่นั้นตามกรมธรรม์ประกันชีวิต เอกสาร จ.1 ให้คำจำกัดความคำว่า “อุบัติเหตุ”หมายถึงเหตุการณ์อันเป็นปัจจัยภายนอกซึ่งรุนแรงและแลเห็นได้ บันดาลให้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ปราศจากเจตนาและความคาดหมายของบุคคลใด ๆ และได้ความจากแบบฟอร์มถ้อยคำแพทย์ผู้รักษาเอกสาร จ.2 ประกอบด้วยบัตรตรวจโรคของโรงพยาบาลสตูล เอกสาร ล.3 ว่าผู้ตายไปรับการรักษาเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2520 เพราะเป็นลม หกล้มศีรษะฟาดพื้น ไม่ได้สติ ศีรษะด้านหลังบวมม่านตาเปิดขยายเต็มที่ทั้งสองข้าง ต่อมาวันที่ 10 เดือนนั้นเอง เวลา 3.00 น. ผู้ตายถึงแก่ความตายด้วยสาเหตุสมองกระทบกระเทือนดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าการที่ผู้ตายเป็นลมหกล้มเป็นเรื่องเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ปราศจากเจตนาและความคาดหมายของผู้ตาย เมื่อการหกล้มทำให้ศีรษะฟาดพื้นเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะสมองกระทบกระเทือนอย่างแรงจึงถือว่าตายเพราะอุบัติเหตุตามกรมธรรม์ประกันชีวิต เอกสาร จ.1 แล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์ตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมา ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share