คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2405/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยให้การว่า โจทก์ผิดสัญญาส่งผ้าให้แก่จำเลยล่าช้าและไม่ครบจำนวนตามสัญญา ทำให้จำเลยเสียหาย โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับจำเลยให้ชดใช้ราคาค่าผ้าที่โจทก์ส่งมอบให้แก่จำเลยตามฟ้องจำเลยอุทธรณ์ว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนเมื่อโจทก์ชำระหนี้ไม่ถูกต้องครบถ้วนในเวลาที่กำหนดไว้ จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องชำระหนี้ตอบแทน ดังนี้ แม้คำให้การดังกล่าวจำเลยจะไม่ได้ให้การให้ปรากฏถ้อยคำว่า “สัญญาต่างตอบแทน” ไว้ด้วย แต่ก็มีความหมายอยู่ในตัวแล้วว่า สัญญาซื้อขายผ้าตามฟ้องเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อโจทก์ไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาจำเลยจึงไม่มีหน้าที่ชำระราคาเป็นการตอบแทน ข้ออุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวกับคำให้การจำเลยเป็นเรื่องเดียวกันและเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้จึงไม่ชอบ แต่เมื่อจำเลยได้ยกประเด็นดังกล่าวเป็นข้อฎีกาขึ้นมาแล้วศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาตามประเด็นข้อนี้เสียเอง โดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้สั่งซื้อผ้าจากโจทก์ จำนวน 13,898 หลาเป็นเงิน 538,119.60 บาท จำเลยได้รับผ้าดังกล่าวจากโจทก์แล้วไม่ชำระเงินให้โจทก์ โจทก์ทวงถามจำเลยเพิกเฉย จำเลยต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2528ถึงวันฟ้องรวม 191 วัน จากยอดเงินจำนวนดังกล่าว เป็นเงินดอกเบี้ย21,119 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินให้โจทก์ 559,238 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากยอดเงินจำนวน 538,119.60บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเงินเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2528 จำเลยได้ซื้อผ้าจากโจทก์โดยมีข้อตกลงว่าโจทก์ต้องส่งผ้าให้จำเลยไม่น้อยกว่า50,000 หลา หรือระหว่าง 50,000 ถึง 75,000 หลา ภายใน 90 วันนับแต่จำเลยเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตภายในประเทศชำระหนี้แก่โจทก์แต่โจทก์ส่งผ้าให้จำเลยตามกำหนดเพียง 4,779 หลา และส่งให้เมื่อพ้นกำหนดอีก 9,119 หลา จำเลยได้รับผ้าไว้เพียง 13,989 หลา โจทก์จึงผิดสัญญาส่งผ้าให้จำเลยไม่ครบและส่งล่าช้าทำให้จำเลยเสียหายโดยต้องซื้อผ้าจากโรงงานอื่นในราคาที่แพงขึ้น ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปให้ลูกค้าต่างประเทศทางอากาศ และต้องเสียค่าใช้จ่ายให้คนงานที่ไม่มีงานทำเพราะต้องรอผ้าจากโจทก์รวมเป็นเงินหลายแสนบาท ซึ่งจำเลยจะต้องเรียกค่าเสียหายดังกล่าวจากโจทก์ต่อไป โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าผ้าตามฟ้องจากจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 538,119.60 บาทแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาจำเลยว่า ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า สำหรับที่จำเลยอุทธรณ์ว่าสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อโจทก์ชำระหนี้ไม่ถูกต้องครบถ้วนในเวลาที่กำหนดไว้ จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องชำระหนี้ตอบแทนนั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้เป็นการไม่ชอบหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว จำเลยให้การว่า โจทก์ผิดสัญญาส่งผ้าให้แก่จำเลยล่าช้าและไม่ครบจำนวนตามสัญญา ทำให้จำเลยเสียหาย โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยชดใช้ราคาค่าผ้าที่โจทก์ส่งมอบให้แก่จำเลยตามฟ้อง เห็นว่า แม้คำให้การจำเลยดังกล่าวจะไม่ได้ให้การให้ปรากฏถ้อยคำว่า “สัญญาต่างตอบแทน” ไว้ด้วย แต่ก็มีความหมายอยู่ในตัวแล้วว่า สัญญาซื้อขายผ้าตามฟ้องเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อโจทก์ไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ชำระราคาเป็นการตอบแทน ข้ออุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวกับคำให้การจำเลยเป็นเรื่องเดียวกันและเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังขึ้น และจำเลยได้ยกประเด็นดังกล่าวเป็นข้อฎีกาขึ้นมาแล้ว ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาตามประเด็นข้อนี้เสียเอง โดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ในปัญหาดังกล่าวศาลฎีกาเห็นว่า แม้สัญญาซื้อขายผ้าตามฟ้องจะเป็นสัญญาต่างตอบแทน และแม้ข้อเท็จจริงจะรับฟังได้ว่าโจทก์ผิดสัญญาส่งผ้าให้จำเลยไม่ครบจำนวนตามสัญญาและส่งผ้าล่าช้าเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายก็ตาม จำเลยก็ยังมีหน้าที่ต้องใช้ราคาสำหรับผ้าส่วนที่จำเลยรับไวั ตามที่โจทก์ฟ้องอยู่ดี เพราะมิได้มีข้อ กำหนดกันไว้ให้จำเลยไม่ต้องชำระเมื่อโจทก์ประพฤติผิดสัญญาดังกล่าวศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผลที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระค่าผ้าให้แก่โจทก์ตามฟ้อง
พิพากษายืน.

Share