แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเช่าซื้อรถยนต์จากห้าง น. และยังค้างชำระค่าเช่าซื้ออยู่ แล้วจำเลยนำรถยนต์คันดังกล่าวไปให้ผู้เสียหายเช่าซื้อต่อโดยจำเลยรับเงินค่าเช่าซื้อรถยนต์นั้นจากผู้เสียหายไปหลายครั้ง ซึ่งผู้เสียหายเข้าใจว่าจำเลยคงส่งเงินจำนวนดังกล่าวไปชำระให้ห้าง น. ตามที่ค้างอยู่ แต่จำเลยก็ไม่นำเงินไปชำระเลย ห้าง น. จึงยึดรถยนต์คืนดังนี้ จึงเป็นเรื่องรับผิดในทางแพ่งจำเลยหามีความผิดอาญาฐานฉ้อโกงไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้แสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อความจริงที่ควรบอกแก่ผู้เสียหายว่า รถยนต์ที่จำเลยเช่าซื้อมาเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยแล้วแต่ยังมิได้ โอนชื่อเป็นของจำเลยในทะเบียนรถยนต์ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงตกลงเช่าซื้อ ระหว่างที่ผู้เสียหายผ่อนชำระค่าเช่าซื้อ ห้าง น. ได้ยึดรถยนต์คือโดยแจ้งว่าจำเลยไม่ชำระเงินค่าเช่าซื้อหลายงวด ความจริงจำเลยยังไม่ได้กรรมสิทธิ์รถยนต์คันดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 จำคุก 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยเช่าซื้อรถยนต์จากห้าง น. และยังไม่ได้กรรมสิทธิ์เพราะยังค้างชำระค่าเช่าซื้ออยู่ แล้วจำเลยนำรถยนต์คันดังกล่าวไปให้ผู้เสียหายเช่าซื้อต่อ โดยจำเลยรับเงินค่าเช่าซื้อรถยนต์นั้นจากผู้เสียหายไปหลายครั้งซึ่งผู้เสียหายอ้างว่า จำเลยบอกว่ารถยนต์เป็นของจำเลยแล้วนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าผู้เสียหายทำอู่ซ่อมรถและมีรถยนต์บรรทุก 6 คัน ผู้เสียหายน่าจะมีความรู้เรื่องการซื้อขายรถยนต์พอสมควร ก่อนที่ผู้เสียหายจะเช่าซื้อรถยนต์จากจำเลย ผู้เสียหายน่าจะสืบสวนให้ได้ความแน่นอนเสียก่อนว่าจำเลยผ่อนชำระค่าเช่าซื้อให้แก่ห้าง น. ครบถ้วนแล้วหรือไม่เพราะถ้าส่งครบถ้วนจำเลยก็จะต้องจัดการโอนทะเบียนรถเป็นชื่อของตนซึ่งเป็นหลักฐานว่าจำเลยเป็นเจ้าของรถแล้ว นอกจากนี้ผู้เสียหายยังไปที่ห้าง น. เพื่อขอเสียภาษีรถยนต์อีกด้วย จึงน่าจะรู้เรื่องว่าจำเลยได้ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อครบแล้วหรือยังศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยหาได้หลอกลวงผู้เสียหายตามฟ้องของโจทก์ไม่ พฤติการณ์ของจำเลยมีอยู่ว่า จำเลยไม่ได้ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อแก่ห้าง น. และเมื่อจำเลยรับเงินจากผู้เสียหายไปจำนวนหนึ่งโดยผู้เสียหายเข้าใจว่าจำเลยคงส่งเงินจำนวนนี้ไปชำระให้ห้าง น. ตามที่ค้างอยู่ แต่จำเลยก็ไม่ส่งให้ จึงเป็นเรื่องรับผิดในทางแพ่ง จำเลยไม่มีความผิดทางอาญาตามฟ้องของโจทก์
พิพากษายืน