คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2404/2533

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ตามบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่ศาลบันทึกไว้ประกอบกับบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่โจทก์ส่งต่อศาลได้ความว่า เมื่อวันที่ 24มิถุนายน 2531 เวลากลางวัน จำเลยครอบครองวีดีโอเทป 1 เครื่องราคา 21,000 บาท ของผู้เสียหายไว้ ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2531เวลากลางวัน จำเลยเบียดบังยักยอกเอาวีดีโอเทปของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริตดังนี้ฟ้องของโจทก์มีข้อความชัดเจนพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วไม่จำต้องบรรยายว่าจำเลยกระทำการเบียดบังยักยอกเอาวีดีโอเทปไปอย่างไร ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2531 เวลากลางวันจำเลยครอบครองวีดีโอเทป 1 เครื่อง ราคา 21,000 บาท ของบริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด ผู้เสียหาย โดยนายเจมส์ หย่วน ซิง แมนกรรมการผู้จัดการ แทนผู้เสียหายตลอดมา ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม2531 เวลากลางวัน ระหว่างที่จำเลยครอบครองวีดีโอเทปของผู้เสียหายดังกล่าว จำเลยเบียดบังยักยอกเอาวีดีโอเทปของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาวีดีโอเทปจำนวน 21,000 บาท แก่ผู้เสียหาย จำเลยให้การรับสารภาพศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ในปัญหาที่จำเลยฎีกาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมนั้น ตามที่ศาลบันทึกการฟ้องด้วยวาจาของโจทก์ประกอบกับบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่โจทก์ส่งต่อศาลได้ความว่าเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2531 เวลากลางวัน จำเลยครอบครองวีดีโอเทป 1 เครื่อง ราคา 21,000 บาท ของบริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด ผู้เสียหายไว้ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม2531 เวลากลางวัน จำเลยเบียดบังยักยอกเอาวีดีโอเทปของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริตเห็นว่า ฟ้องของโจทก์มีข้อความชัดเจนพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีว่าจำเลยเบียดบังยักยอกวีดีโอเทปของผู้เสียหายไป หาจำต้องบรรยายถึงว่าจำเลยกระทำการเบียดบังยักยอกเอาวีดีโอเทปไปอย่างไรฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม”
พิพากษายืน

Share