คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2400/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่โจทก์ถูกฟ้องว่ายักยอกเครื่องมือและอุปกรณ์การทำเหมืองแร่ ข้อสำคัญในคดีมีอยู่ว่า โจทก์ได้ครอบครองทรัพย์ดังกล่าวแล้วเบียดบังเอาเป็นของโจทก์โดยทุจริตหรือไม่ในเมื่องคดีนั้นโจทก์เองได้เบิกคามรับว่าได้ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ดังกล่าวทำเหมืองแร่บางส่วน จึงถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ครองครองเครื่องมือและอุปกรณ์ทำเหมืองแร่นั้น ฉะนั้นที่จำเลยเบิกความว่าโจทก์เป็นผู้ลงชื่อรับเครื่องมือและอุปกรณ์ทำเหมืองแร่ดังกล่าวไป จึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี จำเลยไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีอาญาซึ่งโจทก์ถูกฟ้องเป็นจำเลยในข้อหาความผิดฐานยักยอกต่อศาลชั้นต้นว่า “จำเลยลงชื่อรับสิ่งของไว้ก่อนที่จะนำของเหล่านี้ไปใช้ทำเหมือนแร่” ความจริงโจทก์ไม่เคยลงชื่อรับของต่าง ๆ จากบริษัทสตูบูโลไลบิลิตี้ซึ่งมีจำเลยเป็นประธานกรรมการ ข้อความนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีอาญาทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗ วรรคแรก จำคุก ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีที่จะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗ ตามที่โจทก์ฟ้อง ความเท็จที่โจท์กล่าวหาว่าจำเลยเบิกความนั้นจะต้องเป็นข้อสำคัญในคดีด้วย จำเลยจึงจะมีความผิด
คดีจึงมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าคำเบิกความของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายไว้ในฟ้องและนำสืบเป็นข้อสำคัญในคดีหรือไม่
คดีอาญาที่โจทก์ทั้งสองถูกฟ้องว่ายักยอกทรัพย์ ตามสำนวนคดีอาญาของศาลชั้นต้นหมายเลขดำที่ ๑๗๗/๒๕๑๖ ข้อสำคัญในคดีมีอยู่ว่า โจทก์ทั้งสองได้ครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของบริษัทที่จำเลยเป็นประธานกรรมการ และเบียดบังเอาเป็นของโจทก์ทั้งสองโดยทุจริตหรือไม่ เมื่อโจกก์รับว่าได้ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ดังกล่าวทำเหมืองแร่บางส่วนจากบริษัทซึ่งมีจำเลยเป็นประธานกรรมการในการทำเมืองแร่ จึงถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ครองครองเครื่องมือและอุปกรณ์ทำเหมืองแร่นั้น เพียงแต่โจทก์ทั้งสองโต้เถียงว่าได้คืนเครื่องมือและอุปกรณ์ทำเหมืองแร่ให้แก่บริษัทไปครบถ้วนเมื่อเลิกสัญญาหุ้นส่วนกันแล้ว ฉะนั้นข้อเท็จจริงที่จำเลยเบิกความในคดีอาญาว่า โจทก์เป็นผู้ลงชื่อรับเครื่องมือและอุปกรณ์ทำเหมืองแร่ไป จึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี จำเลยไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๗๗
พิพากษายืน
(ชุบ วีระเวคิน กฤษณ์ โสภิตกุล สุมิตร ฟังทองพรรณ)

Share