คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2396/2554

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

คำวินิจฉัยในคดีอาญาอีกคดีหนึ่งของศาลชั้นต้น ที่วินิจฉัยว่ารถแทรกเตอร์เป็นกรรมสิทธิ์ของ ว. (จำเลยคดีนี้) เป็นคำวินิจฉัยชี้ขาดในชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและไม่เป็นประเด็นโดยตรงในคดีนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นคำพิพากษาที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์รถแทรกเตอร์ว่าเป็นของจำเลย จึงไม่ผูกพันโจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 วรรคหนึ่ง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 คดีนี้ศาลล่างทั้งสองจะต้องพิจารณาพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนคดีเป็นสำคัญ จะถือเอาข้อเท็จจริงซึ่งยุติในคดีก่อนมาผูกมัดให้ศาลวินิจฉัยคดีนี้ตามนั้นหาได้ไม่ ข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวเป็นเพียงพยานหลักฐานส่วนหนึ่งซึ่งศาลอาจใช้ประกอบการพิจารณาคดีนี้เท่านั้น การที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยคดีนี้โดยไม่ถือตามข้อเท็จจริงในคดีอาญาดังกล่าวจึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90, 91, 334, 362, 365
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูลให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 362 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 2 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นเจ้าของรถแทรกเตอร์ขัดแย้งกับคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 55/2548 ของศาลชั้นต้น เป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า คดีนี้กับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 55/2548 ของศาลชั้นต้น มีมูลคดีและประเด็นแห่งคดีว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถแทรกเตอร์หรือไม่ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำวินิจฉัยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 55/2548 ของศาลชั้นต้นว่า นายวัฒนา (จำเลยคดีนี้) มีหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของครบถ้วน พยานหลักฐานของจำเลยจึงมีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือกว่าพยานหลักฐานของโจทก์ ซึ่งเป็นการวินิจฉัยว่ารถแทรกเตอร์เป็นกรรมสิทธิ์ของนายวัฒนา (จำเลยคดีนี้) ข้อเท็จจริงจึงต้องฟังว่าจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถแทรกเตอร์นั้น เห็นว่า คำวินิจฉัยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 55/2548 ของศาลชั้นต้นเป็นคำวินิจฉัยชี้ขาดในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและไม่เป็นประเด็นโดยตรงในคดีนั้นยังถือไม่ได้ว่า เป็นคำพิพากษาที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์รถแทรกเตอร์ว่าเป็นของจำเลย จึงไม่ผูกพันโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 คดีนี้ศาลล่างทั้งสองจะต้องพิจารณาพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนคดีเป็นสำคัญ จะถือเอาข้อเท็จจริงซึ่งยุติในคดีก่อนมาผูกมัดให้ศาลวินิจฉัยคดีนี้ตามนั้นหาได้ไม่ ข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวเป็นเพียงพยานหลักฐานส่วนหนึ่งซึ่งศาลอาจใช้ประกอบการพิจารณาคดีนี้เท่านั้น ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยคดีนี้โดยไม่ถือตามข้อเท็จจริงในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 55/2548 ของศาลชั้นต้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share