คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายที่จำเลยวางศาลเมื่อจำเลยอุทธรณ์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชนะคดีจำเลยก็ชอบที่จะร้องขอคืนเงินที่วางนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 251 (อ้างคำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ 487/2493)
คำสั่งศาลอายัดเงินของจำเลยนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชนะคดีอันเป็นต้นเหตุแห่งการอายัดเงินรายนี้ และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก็มิได้กล่าวถึงวิธีการชั่วคราวที่ศาลชั้นต้นได้สั่งอายัดไว้นั้นแต่ประการใด คำสั่งอายัดนั้นจึงเป็นอันยกเลิกไปในตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(1) (อ้างฎีกาที่ 885/2490).

ย่อยาว

จำเลยยื่นคำร้องว่าศาลได้สั่งอายัดเงินจากนางจรวยศรี ตัณฑโอภาส ซึ่งนางจรวยศรีได้นำเงินนั้นมาวางศาลแล้ว และจำเลยได้วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมกับค่าทนายที่จะต้องใช้แทนโจทก์ไว้ด้วย บัดนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ จึงขอให้ศาลสั่งถอนอายัดและคืนเงินทั้งสองจำนวนให้จำเลย
โจทก์แถลงคัดค้านว่าคดีนั้นยังไม่ถึงที่สุดเพราะโจทก์ได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นอีกที่พอจะยึดมาชำระหนี้โจทก์ได้ ในเมื่อโจทก์ชนะคดีในที่สุด
ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้คืนเงินทั้งสองจำนวนตามคำร้องแก่จำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับเงินค่าฤชาธรรมเนียมกับค่าทนายที่จำเลยวางศาลเมื่อจำเลยอุทธรณ์นั้น เมื่อปรากฏว่าศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชนะคดี จำเลยก็ชอบที่จะร้องขอให้คืนเงินที่วางนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๕๑ และตามคำสั่งคำร้องที่ ๔๘๗/๒๔๙๓ ส่วนเงินที่นางจรวยศรีได้นำมาวางศาลตามคำสั่งอายัดนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้จำเลยเป็นฝ่ายชนะคดีอันเป็นต้นเหตุแห่งการอายัดเงินรายนี้แล้ว และในคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ก็มิได้กล่าวถึงวิธีการชั่วคราวที่ศาลชั้นต้นได้สั่งอายัดเงินไว้ก่อนคำพิพากษาแต่ประการใด คำสั่งศาลชั้นต้นที่กำหนดวิธีการชั่วคราวก่อนคำพิพากษาจึงเป็นอันยกเลิกไปในตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๖๐(๑) และตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๘๘๕/๒๔๙๐ พิพากษายืน.

Share