คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ใดอ้างว่าเรือนซึ่งปลูกอยู่ไม่ใช่ของเจ้าของที่ดิน ผู้นั้นมีหน้าที่นำสืบ.

ย่อยาว

ได้ความว่าโจทก์นำยึดเรือนพิพาทซึ่งอ้างว่าเป็นของจำเลยซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของชุ่มผู้ร้อง ศาลชั้นต้นฟังว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลย สั่งยกคำร้องขัดทรัพย์
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าหน้าที่นำสืบตกแก่โจทก์ที่จะสืบแสดงว่าเรือนนี้จะพ้นจากความเป็นส่วนควบแห่งที่ดินตามประมวลกฏหมายแพ่งฯ มาตรา ๑๐๙ ได้อย่างไร แต่พะยานโจทก์ที่นำสืบในข้อว่าเรือนเป็นของจำเลยฟังไม่ได้จึงพิพากษากลับให้ถอนการยึดเรือน.
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าสิ่งปลูกสร้างลงในที่ดินโดยปกติต้องถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินดั่งศาลอุทธรณ์วินิจฉัย ที่ให้โจทก์ผู้อ้างว่าเรือนพิพาทเป็นของผู้อื่นมิใช่เป็นของเจ้าของที่ดิน ต้องนำสืบตามอ้างนั้นชอบแล้ว เพราะที่ดินมีชื่อผู้ร้องในโฉนดว่าเป็นเจ้าของ โจทก์อ้างว่าเรือนในที่ดินเป็นของจำเลย จึงต้องนำสืบให้ปรากฏเช่นนั้น พะยานโจทก์แตกต่างกัน ตามพฤตติการณ์ไม่น่าเชื่อว่าเรือนเป็นของจำเลย จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ที่ให้ผู้ร้องชะนะคดี.

Share