คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2385/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เฮโรอีนของกลางที่จำเลยที่ 1 มีไว้ในครอบครองเป็นของ บุคคลอื่นที่จะนำไปจำหน่ายแม้จำเลยที่ 1 เพียงแต่ รับฝากเฮโรอีนของกลางให้นำพาไป แต่จำเลยที่ 1 รู้อยู่ ว่าผู้ฝากจะนำไปจำหน่ายการกระทำของจำเลยที่ 1 จึง เป็นการร่วมกับผู้อื่นมีเฮโรอีนของกลางไว้เพื่อจำหน่ายแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองกับพวกอีกหนึ่งคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องฐานร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7, 15, 66, 102 ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2522) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ลงวันที่ 17 กันยายน 2522 และขอให้ริบของกลาง
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 มีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองจริง แต่มิได้มีไว้เพื่อจำหน่าย จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7, 66 ให้จำคุก ยกฟ้องจำเลยที่ 2 ของกลางริบ
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 15, 67 ให้จำคุก ข้อหามีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เชื่อว่าเฮโรอีนของกลางที่จำเลยที่ 1 มีไว้ในครอบครองเป็นของบุคคลอื่นที่จะนำไปจำหน่ายจริง แม้จำเลยที่ 1 เพียงแต่รับฝากเฮโรอีนของกลางให้นำพาไป แต่เมื่อจำเลยที่ 1 รู้อยู่ว่าผู้ฝากจะนำไปจำหน่าย การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการร่วมกับผู้อื่นมีเฮโรอีนของกลางไว้เพื่อจำหน่ายแล้ว
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7 และมาตรา 66 ให้จำคุก

Share